รมว.คลังสั่ง Exim Bank หนุนผู้ส่งอออกไทยบุกตลาดเวียดนาม

Categories : Update News, Finance

Public : 09/22/2022

EXIM BANK ขานรับกระทรวงการคลัง กระตุ้นธุรกิจไทยเชื่อมโยงตลาดโลกยุค Next Normal ชี้เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญที่พร้อมเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมสู่อนาคต

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา “Vietnam in Focus 2022: The Dream Journey” พร้อมด้วยนายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ให้การต้อนรับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้เกิดโอกาสใหม่ ทางธุรกิจ โดยเฉพาะในตลาดใหม่อย่างเวียดนาม ที่เป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับ 4 ของไทยรองจากสหรัฐฯ จีน และญี่ปุ่น และเป็นแหล่งนำเข้าสำคัญอันดับ 10 การค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม นอกจากนี้ รัฐบาลเวียดนามยังมีนโยบายส่งเสริมการค้าเสรีและการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้เวียดนามเป็นแหล่งลงทุนเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งไทยซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม ผู้ประกอบการไทยจึงควรเร่งขยายความร่วมมือกับเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นการค้าขายระหว่างประเทศหรือลงทุนร่วมกัน

นายอาคม กล่าวว่า รัฐบาลไทยพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในมิติการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งในมิติการเงินการคลัง ผ่านการสนับสนุนของ EXIM BANK ที่มุ่งเน้นการทำหน้าที่ในเชิงรุกสู่บทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ เครื่องมือทางการเงิน พร้อมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมสู่อนาคต เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy หรือ BCG Economy) ของไทย เชื่อมโยงกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคในกรอบความร่วมมือภายใต้อาเซียนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)

 

ด้าน กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า พร้อมเสริมอาวุธให้ผู้ประกอบการไทย ด้วยเครื่องมือปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน อาทิ การทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contract) หรือการซื้อประกันค่าเงิน (Foreign Exchange Option) เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและการเมือง ไม่ว่าจะเป็นผู้ซื้อล้มละลาย ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า ผู้ซื้อไม่ชำระเงินค่าสินค้า รัฐบาลประเทศผู้ซื้อควบคุมการโอนเงิน ห้ามนำเข้าสินค้า เกิดสงคราม หรือจลาจล EXIM BANK จะจ่ายค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งติดตามหนี้ให้ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยหมดกังวลกับปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น พร้อมทุ่มเทเวลาและทรัพยากรไปกับการพัฒนาสินค้าและบริการให้สามารถเติมเต็มห่วงโซ่การผลิตของเวียดนามได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ไทยมีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของเวียดนาม อาทิ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลังงานสะอาด และอาหารแห่งอนาคต

ที่ผ่านมา EXIM BANK มุ่งเน้นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปอยู่ใน Supply Chain ธุรกิจ BCG ของเวียดนาม เนื่องจากศักยภาพของผู้ประกอบการไทยสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง  ปัจจุบันโครงการลงทุนในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ EXIM BANK คิดเป็นมูลค่ากว่า 17,300 ล้านบาทในหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่งและค้าปลีก นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนให้ภาคธุรกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  เช่น สินเชื่อ EXIM Kill Bill by Biz Transformation วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.00% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี และสินเชื่อ Solar Orchestra สำหรับธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการลงทุนติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) วงเงินกู้สูงสุด 100% ของมูลค่าโครงการลงทุน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 2.75% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี ผู้กู้จะได้รับสิทธิการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตแบบครบวงจรและสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี 50% ของเงินลงทุนเป็นระยะเวลา 3 ปีจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)

สำหรับผลการดำเนินงานของ EXIM BANK สิ้นเดือนสิงหาคม 2565 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศทั้งสิ้น 67,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,271 ล้านบาท หรือ 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจไทยสยายปีกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และตลาดใหม่ (New Frontiers) อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนแรกปี 2565 EXIM BANK มีสินเชื่อคงค้าง CLMV และ New Frontiers จำนวน 53,815 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,804 ล้านบาทหรือ 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสินเชื่อคงค้างในเวียดนาม 14,960 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.4%