วิริยะประกันภัย เผยแผนงานปี 67 ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 4.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

Categories : Update News, Insurance

Public : 03/18/2024

วิริยะประกันภัย เผยแผนงานปี 67 ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 4.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 66 ที่มีเบี้ยรับรวมกว่า 4 หมื่นล้าบาท

นายอมร ทองธิว กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2567 ว่า บริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และ การให้บริการต่างๆ โดยยึดหลักลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งในปีนี้จะมุ่งเน้นไปที่การส่งมอบประสบการณ์ความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด "ปีแห่งความ มั่นคงและเป็นธรรม : มากกว่าความคุ้มครอง คือ ความคุ้มค่า”

ขณะที่ในปี 2567 นี้บริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมไว้ที่ 43,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6% ประกอบด้วยประกันภัยรถยนต์ 38,000 ล้านบาท ขยายตัว 6% และประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ 5,000 ล้านบาท เติบโต 11%

สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทยังคงครองส่วนแบ่งตลาดประกันวินาศภัย อันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 31 ด้วยส่วนแบ่งตลาด 14% รวมถึงตลาดประกันภัยรถยนต์ที่ครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 36 ส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 22% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคง แข็งแกร่ง และ ความน่าเชื่อถือของบริษัท

ทั้งนี้ในปี 2566 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวมทั้งสิ้น 40,077 ล้านบาท แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 35,633 ล้านบาท และ ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ 4,444 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท

นายอมร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีพอร์ตลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นพอร์ตลงทุนในหุ้น 29,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดหุ้นซบเซาทำให้มูลค่าพอร์ตลดลงประมาณ 6% ส่วนที่เหลืออีก 31,000 ล้านบาท เป็นพอร์ตลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และเงินฝาก เป็นต้น

"บริษัทยังไม่มีนโยบายปรับพอร์ตการลงทุน หรือเพิ่มการลงทุนหุ้น เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นยังไม่เอื้ออำนวย ขณะที่พันธบัตรและเงินฝากได้รับอานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) สิ้นปี 66 อยู่ที่ 4.4% โดยคาดว่าปี 2567 ก็จะทรงตัวในระดับดังกล่าว" นายอมร กล่าว

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง นโยบายการพัฒนาและเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจด้านประกันภัยรถยนต์ (Motor)ว่า ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการพัฒนางานบริการด้านสินไหมทดแทน และงานรับประกันภัยที่สำคัญในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านระบบงาน โดยบริษัทมีการพัฒนา ทบทวน ปรับปรุงRedesignระบบงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านสินไหมทดแทน และ รับประกันภัย ให้กระชับ สะดวก รวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เตรียมความพร้อมสำหรับการประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยการจัดอบรมความรู้หลักสูตร เกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้กับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่สรุปความเสียหาย รวมไปถึงบริษัทคู่ค้า ตัวแทนประกันวินาศภัย และ ศูนย์ซ่อมมาตรฐานของวิริยะประกันภัยทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าได้อย่างมืออาชีพอีกด้วย โดยในปี 66 มีเบี้ยประกันภัยรถยนต์ EV ประมาณ 400 ล้านบาท

นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะ ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง การประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor)ในปีนี้บริษัทยังคงมุ่งเน้นดูแล และ พัฒนาการให้บริการลูกค้าเป็นสำคัญเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดี ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงที่เป็นธรรม ทั้งยังสอดรับปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มั่นคง โปร่งใส จริงใจ และ เป็นธรรม โดยบริษัทตั้งเป้าเบี้ยประกันภัย Non-Motor เติบโตประมาณ 11% โดยจะมุ่งเน้นไปที่การรับประกันความเสี่ยงภัยรายย่อยด้านส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยบ้าน และ ประกันภัยความรับผิด

สำหรับแนวทางการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทให้ความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย สุขภาพส่วนบุคคล ประกันสุขภาพเฉพาะโรค และ ประกันภัยโรคร้ายแรง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มความคุ้มครอง และ บริการที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของลูกค้า (Good Health and Well-being)

ขณะเดียวกันยังคงมุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ประกันภัยเดินทางเพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยการเดินทางภายในประเทศ หลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จจากการรับประกันภัยการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศแล้ว

พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีนโยบายที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองแนวคิด ESG Responsibilities ออกมาในรูปแบบ Green Insurance ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ช่วยส่งเสริมการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทจึงนำแนวคิด Green Insurance มาพัฒนาร่วมกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีอยู่ของบริษัท