MMM บจ.รายแรก!! ขยับจากกระดาน LiVEx สู่ mai ก.ล.ต อนุมัติไฟลิ่งแล้ว!! ขาย PO 64.20 ล้านหุ้น
Categories : Update News, Stock Market
Public : 19/03/2025“เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล (MMM)” บจ.รายแรก!! ขยับจากกระดาน LiVEx สู่ mai ก.ล.ต อนุมัติไฟลิ่งแล้ว!! ขาย PO 64.20 ล้านหุ้น - นำเม็ดเงินจากการระดมทุน สยายปีกเพื่อสร้างโอกาสการเติบโต ก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
นางสาวณิชา โรจน์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM เปิดเผยว่า MMM ถือว่าเป็นบริษัทแรกที่ย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ดังนั้น การเข้าระดมทุนในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญของบริษัทฯ ที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว รวมถึงยังเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจสู่การต่อยอดการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต สอดรับกับแนวคิดภายใต้การเป็น “เพื่อนคู่คิด นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์”
นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท เอ็มเอ็มเอ็ม แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MMM เปิดเผยว่า หลังจากที่ MMM ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (PO) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. โดยล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งแบบไฟลิ่ง MMM เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น PO จำนวนไม่เกิน 64,200,000 หุ้น หรือคิดเป็น 21.40% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
สำหรับหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 52,200,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 17.40% และ 2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย บริษัท ณัชชา โฮลดิ้ง จำกัด ไม่เกิน 12,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 4.00% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
ปัจจุบัน MMM ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยทุกประเภทให้กับเจ้าของโครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม รวมถึงการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการขายผ่านเครือข่ายนายหน้าอิสระ นอกจากนี้บริษัทฯทำธุรกิจซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพดีนำมาปรับปรุงเพื่อจำหน่าย ธุรกิจของ MMM สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. ที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) โดยเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์แต่เพียงผู้เดียว ให้กับเจ้าของโครงการ เพื่อให้บริการแนะนำติดต่อผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ตลอดจนประสานงานเพื่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯ ระหว่างผู้ซื้อและเจ้าของโครงการจนกว่าแล้วเสร็จ
2. การบริหารงานขายโครงการ (BU2) เป็นตัวแทนขายและรับประกันการขายแต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้บริการ แนะนำ ติดต่อผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ตลอดจนประสานงานเพื่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ระหว่างผู้ซื้อและเจ้าของโครงการจนกว่าแล้วเสร็จ
นอกจากนี้ MMM ให้บริการบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) ซึ่งเป็นการรวมรูปแบบการให้บริการที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) ในช่วงแรก และสิทธิในการเลือกเป็นการบริหารงานขายโครงการแบบรับประกันการขาย (BU2) ในช่วงที่สอง
3. การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (BU3) เป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพดีนำมาปรับปรุงเพื่อจำหน่าย
“MMM มีศักยภาพความโดดเด่นด้านความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการวางแผนการตลาดที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ครบทุกมิติ ส่งผลให้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ มีโครงการอสังหาฯ ภายใต้สัญญาให้บริการและรอการขายสำหรับ BU1 BU2 และ BU3 รวมจำนวน 25 โครงการ 848 ยูนิต ซึ่งกระจายในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ชลบุรี ระยอง และจังหวัดอื่นๆ ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม”
สำหรับเม็ดเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ นำไปขยายธุรกิจ โดยใช้ในการวางเป็นเงินประกันสัญญาในธุรกิจการให้บริการที่ปรึกษางานขายโครงการ (BU1) และสัญญาการให้บริการบริหารงานขายโครงการ (BU2) รวมทั้งสัญญาการให้บริการบริหารงานขายแบบวางหลักประกันการซื้อ (Hybrid) อีกทั้งยังใช้เพื่อการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ (BU3) และส่วนที่เหลือเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรองรับการขยายธุรกิจ เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านการขายและการตลาดเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ควบคู่กับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ภายใต้นโยบายการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจัดสรรเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตาม จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ สะท้อนถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 - 2567 โดยบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 168.08 ล้านบาท 255.66 ล้านบาท และ 357.88 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิ และอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 35.09 ล้านบาท 47.74 ล้านบาท และ 80.76 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 20.62 ร้อยละ 18.49 และร้อยละ 22.39 ตามลำดับ
จากการเติบโตดังกล่าว บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ผ่านการเพิ่มเครือข่ายนายหน้าอิสระเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพขยายฐานการเข้าถึงผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อเพิ่มยอดขาย รวมถึงการรักษามาตรฐานและคุณภาพในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าปัจจุบันพร้อมกับการขยายการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าใหม่ เพื่อการเติบโตของรายได้ในอนาคต