“ DEXON” ฐานะแกร่งหลัง ”ไอพีโอ” นำเงินลุยขยายธุรกิจต่างประเทศ -คืนหนี้

Categories :

Public : 03/29/2023
DEXON” ฐานะแกร่งหลังขาย ”ไอพีโอ” นำเงินลุยขยายธุรกิจต่างประเทศ  พร้อมลงกระดานเทรด31มีนาคมนี้
 

 บมจ. เด็กซ์ซอน เทคโนโลยี  ( DEXON”)   ผู้ให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมและสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับตรวจสอบโครงสร้างและอุปกรณ์การผลิตในในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้า กลุ่มพลังงานหมุนเวียน และที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ตรวจสอบท่อส่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ ตรวจสอบภาชนะรับแรงดัน ตรวจสอบอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน ตรวจสอบถังกักเก็บน้ำมัน ถังกักเก็บสารเคมี และการตรวจสอบกังหันลมผลิตไฟฟ้า

 

#DEXON ภายใต้การบริหารของ “  มัลลิกา แก่กล้า “ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  และผู้ถือหุ้น   มีทีม  วิศวกรที่ชำนาญในสาขาต่าง ๆ กว่า 70 ท่าน  มีประสบการณ์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกคิดค้นอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 26 ปี  ผลักดันให้ เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำระดับโลกและยังเป็นผู้นำในประเทศไทยที่มีศักยภาพในการผลิตเทคโนโลยีด้านการตรวจสอบและการประเมินความสมบูรณ์ของระบบท่อส่ง (Pipeline Integrity)  ที่สามารถให้บริการกับลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและให้บริการตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

            #DEXON”  ได้เสร็จสิ้นการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนครั้งแรก(ไอพีโอ) เมื่อวันที่ 24และ27มีนาคม ที่ผ่านมา  โดยขายไอพีโอ จำนวน 123,183,200 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.85 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งผลการขายนั้น นักลงทุนให้ความสนใจซื้อหุ้นล้นจำนวนหุ้นที่เสนอขาย

            สำหรับสัดส่วนการขายหุ้น# IPO  แบ่งเป็นจำนวนหุ้นและสัดส่วนที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนแต่ละประเภท ดังนี้

  จำนวน 113,183,200หุ้ น เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และนักลงทุนสถาบัน คิดเป็นร้อยละ 91.88  ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้

  ไม่เกิน 3,000,000 หุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย คิดเป็นร้อยละ 2.44  ของ จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้

 ไม่เกิน 7,000,000 หุ้น เสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย คิดเป็นร้อยละ 5.68  ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้

   ทั้งนี้   DEXON      ขายไอพีโอ หุ้นละ  4.50 บาทต่อหุ้น

     มูลค่าการเสนอขาย:                           554,324,400 บาท

   มูลค่าที่ตราไว้ (Par):                                      0.50 บาทต่อหุ้น

 

   DEXONให้บริการธุรกิจหลัก4ด้าน 

   

      1 . บริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Advance Inspection Technology)

    1.   กลุ่มลูกค้าหลักเป็นลูกค้าซึ่งอยู่ในบริการตรวจสอบโดยใช้เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน (Conventional Inspection Technology)

     3.บริการฝึกอบรมด้านการตรวจสอบ (Training Services)  และ

     4.การให้บริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม ประกอบ ติดตั้งและซ่อมบำรุง (Engineering design,                            Assembly, Installation and Maintenance Service)

"กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เช่น ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวข้องกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง และโรงไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ย (ปี 2563 - ปี2565) อยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 และร้อยละ 30 ของรายได้จากการขายและบริการรวม “

 

   กำไรต่อเนื่องมาร์จิ้นเกิน40% - ฐานะการเงินแกร่ง นำเงินคืนหนี้กด D/E ต่ำ1เท่า

       

DEXON ระบุเป้าหมายการใช้เงินที่ได้จากขาย IPO ไว้ชัดเจน  นำเงินขยายกิจการในต่างประเทศและคืนหนี้เงินกู้ ซึ่งหลังคืนหนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง และทำให้เหนี้สินต่อทุนD/Eลงมาต่ำกว่า 1เท่า หรือจะลงมาเหลือ0.7เท่านั้น จาก 1.35เท่า 

   “   ชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 225 ล้านบาท  หลังคืนหนี้ทำให้หนี้สินต่อทุนลดเหลือต่ำกว่า1 เท่าจาก 1เท่ากว่าๆ  ประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้กว่าปีละ 10 ล้านบาท รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และสร้างโอกาสในการแข่งขันให้กับบริษัท “

            อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานั้นบริษัทใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินในการทำธุรกิจเป็นหลัก โดย  ปี 2565 บริษัทใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นหลักในการดำเนินธุรกิจ โดยมีภาระหนี้สินที่เป็นระยะสั้นและระยะยาวทั้งหมดจำนวน 254 ล้านบาท และ 207 ล้านบาท ตามลำดับ  แบ่งเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้นกับสถาบันการเงินจำนวน 120 ล้านบาท และ 104 ล้านบาท ตามลำดับ เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี จำนวน 31 ล้านบาท และ 33 ล้านบาท ตามลำดับ  เงินเบิกเกินบัญชี (O/D) ในปี 2564 จำนวน 15 ล้านบาท ( ด้วยจำนวนเดียวกันทั้งสองปี) และเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 88 ล้านบาท และ 54 ล้านบาท ตามลำดับ  ซึ่งจะทยอยชำระจนครบกำหนดการคืนเงินกู้ในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 โดยปี 2564 บริษัทมี D/E และ DSCR เท่ากับ 1.13 และ 3.12 ตามลำดับ และปี 2565 บริษัทมี D/E และ DSCR เท่ากับ 0.70 และ 5.05   “

มัลลิกา แก่กล้า “ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DEXON   กล่าวว่า  เราก็มีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่จากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดย DEXON มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นบริษัทผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการตรวจสอบเฉพาะทางขั้นสูงแก่อุตสาหกรรมชั้นนำระดับนานาชาติแบบครบวงจร และให้บริการอย่างต่อเนื่องไปทุกภูมิภาคของโลกอย่างยั่งยืน  

 

      การระดมทุนในครั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์(ทวีปยุโรป) รวมถึงสหรัฐอเมริกา ประมาณ120 ล้านบาท   โดยเน้นให้บริการตรวจสอบทางวิศวกรรมระบบท่อด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง (Smart Pigging Technology) ที่มีคู่แข่งในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะการตรวจสอบรอยแตกขนาดเล็กในระบบท่อส่งที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษที่มีเทคโนโลยีสูงที่บริษัทพัฒนาขึ้น (Hawk Pipeline Crack Detection and Measurement System),  จำนวน 60ล้านบาท ลงทุนในงานวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม เช่นการเปลี่ยนไปสู่พลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ, การตรวจสอบระบบท่อส่งเพื่อรองรับการแปลงไปสู่การใช้งานของก๊าซไฮโดรเจน (Hydrogen Energy Conversion) ที่จะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ในระบบท่อส่งจากเดิมเป็นน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เป็นการขนส่งก๊าซไฮโดรเจน การดักจับและกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture and Storage : CCS) เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

 

 ขณะที่  “ วิชา โตมานะ “ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้น DEXON กล่าวว่า    ราคา 4.50บาทมาจากการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน และบนพี/อี20เท่า และยังมีส่วนลดให้กับนักลงทุน และมีหุ้นพร้อมดูแลเสถียรภาพของราคา หากสถานการตลาดหุ้นรวมยังได้รับผลจากสหรัฐ   

        DEXONเราจะเป็นทั้งหุ้นโกรทและหุ้นปันผลโดยบริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า40%ของกำไรสุทธิ