นักลงทุนบุคคลไทยสนใจลงทุนหุ้นยั่งยืน
Categories :
Public : 10/27/2022ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มีบริษัทจดทะเบียนไทยที่ถือเป็นหุ้นยั่งยืนตามกรอบดัชนี DJSI
ดัชนี MSCI-ESG และรายชื่อหุ้น THSI รวม 155 บริษัทโดยเป็นบริษัทในกลุ่ม SET100 และNon-SET100 ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และมีการกระจายตัวในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย หุ้นกลุ่มนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นสอดคล้องตามทิศทางของตลาดการลงทุนโลกที่นักลงทุนใส่ใจในด้าน ESG มากขึ้น
• นักลงทุนบุคคลที่ซื้อขายหุ้นในช่วงครึ่งปีแรกมีจำนวน 9 แสนคน พบว่าประมาณ 80% ซื้อขายหุ้นยั่งยืนอย่างน้อย 1 บริษัท และมีมูลค่าซื้อขายหุ้นยั่งยืนเฉลี่ยสูงถึงวันละ 14,245 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นของนักลงทุนบุคคลทั้งหมด
• หุ้นยั่งยืนเป็นที่นิยมของบุคคลในทุก generation โดยยิ่งสูงอายุขึ้นยิ่งมีแนวโน้มที่จะสนใจและกระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนมากขึ้น อีกทั้ง พบว่านักลงทุนที่มีประสบการณ์เริ่มซื้อขายหุ้นมาก่อนปี 2564 สนใจหุ้นยั่งยืนมากกว่านักลงทุนใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดมาในช่วง 2 ปีหลังอยู่บ้าง
• ความสนใจหุ้นยั่งยืนแตกต่างกันอย่างชัดเจนในมุม retail segment โดยบุคคลกลุ่ม Fundamental Group พบว่ามากกว่า 85% จากทุก segment ในกลุ่มนี้ซื้อขายหุ้นยั่งยืน และกระจายมูลค่าซื้อขายให้สูงถึง 60-80% ขณะที่บุคคลในกลุ่ม Risk Group กระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนเพียง 15-25%
กล่องที่ 2: ทำความรู้จักกับ retail segment ในตลาดหุ้นไทย
❖ หนึ่งในลักษณะเด่นของตลาดหุ้นไทยคือการมีกลุ่มนักลงทุน (Thailand Sustainability Investment) โดยแบ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม SET100 และ Non-SET100 ในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และมีการกระจายตัวในเชิงกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย (รูปที่ 1) ซึ่งหุ้นยั่งยืนดังกล่าวได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน สอดคล้องตามทิศทางของตลาด
การลงทุนโลกที่นักลงทุนต่างใส่ใจในเรื่องของ ESG (Environmental-Social-Governance) มากขึ้น
ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2565 ตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนที่มีบัญชีซื้อขายหุ้นรวม 5.54 ล้านบัญชี หรือ 2.27 ล้านคน
โดยนักลงทุนบุคคลทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นในช่วง 6 เดือนแรกรวม 0.89 ล้านคน มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยวันละ 35,487 ล้านบาท หรือคิดเป็น 41% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นทั้งตลาด ทั้งนี้ พบว่า 79% ของนักลงทุนบุคคลดังกล่าวซื้อขายหุ้นยั่งยืนอย่างน้อย 1บริษัท และมีมูลค่าซื้อขายหุ้นยั่งยืนเฉลี่ยสูงถึงวันละ 14,245 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% ของมูลค่าซื้อขายหุ้นของนักลงทุนบุคคลทั้งหมด (รูปที่ 2)
คำถามที่น่าสนใจต่อไปคือ นักลงทุนบุคคลสนใจหุ้นยั่งยืนเหมือนกันทุกกลุ่มหรือไม่ ใครสนใจมากหรือน้อยแตกต่างกันอย่างไร
ในมุม retail segment (กล่องที่ 2) มีความสนใจหุ้นยั่งยืนที่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยบุคคลกลุ่มFundamental Group ซึ่งนิยมหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่หรือหุ้นที่ให้ปันผลสูง พบว่ามากกว่า 85% ของบุคคลทุกsegment ในกลุ่มนี้ซื้อขายหุ้นยั่งยืน และกระจายมูลค่าซื้อขายให้สูงถึง 60-80% เลยทีเดียว ขณะที่บุคคลในกลุ่มRisk Group กระจายมูลค่าซื้อขายให้หุ้นยั่งยืนเพียง 15-25% (รูปที่ 4)