PTG ลั่นใน5ปีเปิดกาแฟพันธุ์ไทย4-5 พันสาขา

Categories : Update News, Stock Market

Public : 09/19/2022

   PTG ลั่นใน 5 ปี  รายได้ร้านกาแฟพันธุ์ไทยโตปีละ 50% จากปีนี้คาดรายได้ 1.2 พันลบ.ด้วยเป้าขยายร้านเป็น 4-5 พันสาขา จากสิ้นปี 66 ที่ 1.5 พันสาขา โดย 80% เป็นการขยายร้านผ่านธุรกิจแฟรนส์ไชส์

 

  นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า  บริษัทวางเป้ารายได้จากธุรกิจร้านกาแฟพันธุ์ไทยเติบโตต่อเนื่องปีละ 50% ใน 5 ปี (66-70) จากปีนี้คาดรายได้แตะ 1,200 ล้านบาท ด้วยเป้าหมายขยายสาขาครบ 1,500 สาขา ภายในสิ้นปี 66 จากปัจจุบันมี 500 สาขา และมีแผนขยายเพิ่มอีกปีละ 1,000 สาขา ส่งผลให้ใน 4-5 ปีข้างหน้า มีสาขาเพิ่มเป็น 4,000-5,000 สาขา โดย 80% เป็นการขยายร้านผ่านธุรกิจแฟรนส์ไชส์

  โดยปีนี้รายได้ร้านกาแฟพันธุ์ไทยเติบโต 120% หรือ 4 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังครึ่งปีแรกสามารถทำรายได้แล้วที่ 480 ล้านบาท หรือเติบโตเป็นเท่าตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2 เดือนแรกของไตรมาส3/65 มีรายได้แล้วที่ 230 ล้านบาท จากการปรับกลยุทธ์ 4 ด้าน ประกอบด้วย

  1.การขยายสาขาทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน โดยปี 65 บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 1,500 สาขา ทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่เปิดให้บริการกว่า 500 สาขา แบ่งเป็น สาขาที่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน 70% และสาขาที่อยู่นอกสถานีบริการ 30% โดยการขยายสาขาจะมุ่งเน้นการเปิดให้บริการบนทำเลใจกลางเมืองในย่านธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง ทั้งกรุงเทพ และปริมณฑล เมืองท่องเที่ยว รวมไปถึงหัวเมืองตามจังหวัดต่างๆ รองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนทำงาน ขณะเดียวกันในอนาคตกาแฟพันธุ์ไทย จะมุ่งเน้นในการขยายสาขาโดยการขายแฟรนไชส์ ด้วยรูปแบบการลงทุนที่หลากหลายโมเดล เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละทำเลพื้นที่

  2.การออกสินค้าใหม่ ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากคู่แข่ง โดยชูวัตถุดิบของไทย รสชาติดีและหาทานได้ยากมาทำเป็นเครื่องดื่ม ล่าสุดบริษัทฯ ได้ออกสินค้าใหม่ อย่าง ไทยดีเสริฐ ขนมไทยดื่มได้ ที่ใช้วัตถุดิบลอกช่อง จากจ.เชียงใหม่ และฝอยทอง จ.อยุธยา

  3.การวางกลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางดิลิเวอรี่ โดยเน้นความสะดวกการเข้าถึง (AccessibilitV) ของลูกค้า เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ (Awareness) และการมองเห็นของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น (Vvsibilit) ซึ่งส่งผลในปี 64 ที่ผ่านมายอดขายผ่านช่องทางดิลิเวอรี่เติบโตมากขึ้นถึง 4 เท่า

  4.การนำข้อมูลลูกค้าจากบัตรสมาชิก Max Card และ Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า17 ล้านคนทั่วประเทศ มาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า เพิ่มยอดขาย และเพิ่มทั้งความถี่ของการเข้ามาใช้บริการในร้านกาแฟพันธุ์ไทยให้เพิ่มมากขึ้น

  ด้านนางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ที่ปรึกษาด้านแบรนด์ดิ้ง กาแฟพันธุ์ไทย กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้จะ refresh แบรนด์ใหม่ ผ่านวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่เปรียบเสมือนเป็น "ดาวเหนือ" ในการทำให้แบรนด์กาแฟพันธุ์ไทย เป็นแบรนด์กาแฟของ "คนไทยพันธุ์ใหม่" ที่มีความกล้าคิด กล้าทำ ในสิ่งใหม่ๆ รวมไปถึงการใช้ไอเดียความคิดสร้างสรค์ต่งๆ ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าความกล้าที่จะคิดรวมถึงการใช้ชีวิตนอกกรอบ จะสามารถช่วยสร้างสรรค์สิ่งดีๆและมุมมองใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยอย่างแน่นอน

  ทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท ส่งแคมเปญ "เวลาเป็นไท" แคมเปญที่ได้ใจ "คนทำงาน" ในหลากหลายอาชีพ ได้มีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับแคมเปญ เช่น การสนับสนุนให้เวลาเป็นไท ของพนักงานออฟฟิศชวนมาพักผ่อนด้วยการดื่มกาแฟในช่วงเวลาเป็นไท ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก 3 พาร์ทเนอร์ ได้แก่ AP property, SEAC และShopee Food ในการร่วมแคมเปญเพื่อมอบเวลาเป็นไทกับพนักงานทุกคน