ไทยพาณิชย์พักหนี้-ลดดอกเบี้ยช่วยลูกค้าได้รับผลกระทบพายุ “โนรู”

Categories : Update News, Finance

Public : 10/04/2022
 

ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาตรการพิเศษช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีที่อยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อน “โนรู” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกค้าอย่างเร่งด่วน

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาตรการพิเศษบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมโดยพายุโซนร้อน “โนรู” ในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเปิดให้ลูกค้ายื่นขอพักชำระหนี้ ปรับลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงินพิเศษเพื่อเสริมสภาพคล่อง และยกเว้นการเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์มีความห่วงใยลูกค้าและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนโนรู ที่เคลื่อนตัวจากประเทศเวียดนามเข้าประเทศไทยทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงหลายจังหวัด และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารอย่างเร่งด่วน ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางตรง คือ สถานประกอบการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยและทรัพย์สินของกิจการได้รับความเสียหาย และกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม คือ สถานประกอบการตั้งอยู่นอกพื้นที่ แต่มีคู่ค้าอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยส่งผลให้ธุรกิจของลูกค้าไม่สามารถดำเนินการตามปกติ

 ธนาคารจึงได้ออกมาตรการพิเศษเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและคลายความกังวลใจให้กับลูกค้าเอสเอ็มอีโดยทันที ผ่าน 5 มาตรการหลัก ได้แก่

    • พักชำระเงินต้น (Grace Period) สูงสุดนาน 6 เดือน
    • พักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ไม่เกิน 3 เดือน
    • ยกเว้นการเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระ (อัตราดอกเบี้ยปกติ) สำหรับการผิดนัดชำระไม่เกิน 30 วัน
    • เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว สูงสุด 20 %ของวงเงิน Working Capital เดิมและไม่เกิน 10 ล้านบาท
    • วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินของกิจการที่เสียหายสูงสุด 20% ของวงเงินรวมเดิม สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท ผ่อนชำระนานสูงสุด 7 ปี

ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์จะยังคงติดตามประเมินผลกระทบในระยะถัดไปอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าด้วยมาตรการเพิ่มเติมต่อไป เพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี และเดินหน้าธุรกิจต่อได้อย่างราบรื่นและเติบโตต่อไป

ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับมาตรการช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยมีเกณฑ์การพิจารณาขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละราย และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยลงทะเบียนขอรับมาตรการช่วยเหลือและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ที่ดูแลท่าน หรือ SCB Business Call Center 0-2722-2222