CH ฟอร์มหรู9 เดือนพลิกอวดกำไร 110 ล้าน พุ่ง 305%

Categories : Update News, Stock Market

Public : 11/11/2022

บมจ. “เจริญอุตสาหกรรม” หรือ CH โชว์ผลงานหรู งวด 9 เดือนกำไร  110.93 ล้านบาท พุ่ง 305% จากงวดเดียวกันปีก่อนขาดทุน  รับอานิสงส์ความต้องการผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งทั้งภายในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่สถานการณ์ขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการส่งสินค้าระหว่างประเทศคลี่คลายลง นอกจากนี้ ราคามะม่วงที่ถูกลง ยังส่งผลให้ความสามารถทำกำไรดีขึ้นด้วย

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2565 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทมีกำไรสุทธิ 43.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 30.70 ล้านบาท

ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-กันยายน) บริษัทมีกำไรสุทธิ 110.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 305 %  จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 53.96 ล้านบาท

"รายได้จากการขายงสดไตรมาส3 จำนวน 470.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 363.02 ล้านและงวด9เดืเน มีรายได้จากการขายที่ 1,380.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 1,089.22 ล้านบาท

โดยรายได้หลักกว่า 87.88% มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 25.68% โดยเพิ่มขึ้นจากการขายในประเทศ 26.19% และเพิ่มขึ้นจากการขายต่างประเทศ 25.51% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2565 สถานการณ์ขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการส่งสินค้าระหว่างประเทศคลี่คลายลง อันเนื่องมาจากการปิดประเทศของจีน (Lock Down) ตามนโยบาย Zero-COVID ทำให้จีนมีความต้องการใช้เรือและตู้คอนเทนเนอร์ลดลง อีกทั้ง สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลาย หลังจากภาครัฐมีนโยบายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2564 ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายเติบโตขึ้นมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคามะม่วง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของบริษัทในการผลิตผลไม้อบแห้งในฤดูกาลปี 2565 มีราคาถูกลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จึงทำให้ต้นทุนผลิตสินค้าต่อหน่วยลดลง และส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นในต้นปี 2565 ยังเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการที่บริษัทมีต้นทุนสินค้าเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงสู่ภาวะปกติ โดยในช่วงต้นปี 2564 บริษัทมีต้นทุนสินค้าเฉลี่ยต่อหน่วยที่จำหน่ายในงวดสูงกว่าปกติอันเนื่องมาจากฝ่ายบริหารได้มีการพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายโบนัสในช่วงท้ายปี 2563 เพิ่มเติม เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 น้อยกว่าที่คาดการไว้