PTGโชว์กำไรไตรมาส3กว่า 181ล้านบาทพุ่ง179%บอร์ดใจถึงปันผลระหว่างกาลหุ้นละ20สตางค์
Categories : Update News, Stock Market
Public : 11/15/2022
PTGโชว์กำไรไตรมาส3กว่า 181ล้านบาทพุ่ง179%บอร์ดใจถึงปันผลระหว่างกาลหุ้นละ20สตางค์
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผย บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 ปี 2565 จำนวน 181 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 179% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 45,171 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 47.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 30,585 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจน้ำมันที่มีสัดส่วนประมาณ 95% ของรายได้รวมทั้งหมดเติบโตขึ้น 45.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีมาอยู่ที่ 42,615 ล้านบาท จากราคาน้ำมันขายปลีก หน้าสถานีบริการเฉลี่ยอยู่ที่ 33.32 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 26.0 และปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 1,278 ล้านลิตรหรือเพิ่มขึ้น 15 %
ขณะที่ ผลงานงวด 9 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 951 ล้านบาท ลดลง 13.3% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1,097 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI เฉลี่ยอยู่ที่ 98.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขึ้นมา 51.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ ที่ 65.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ ทั้งสิ้น 130,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 96,159 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจน้ำมัน ขณะที่ Non Oil ก็ยังเติบโตได้ดี โดยมีรายได้ 6,531 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 70.60% จาก 3,828 ล้านบาท
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น สำหรับผลดำเนินงาน ตั้งแต่ ม.ค-ก.ย 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท คิดเป็น 35.7% ของกำไรสุทธิต่อหุ้นซึ่งอยู่ที่ 0.56 บาท จะกำหนดรายชื่อผู้ได้สิทธิรับปันผลวันที่ 29 พ.ย และขึ้น XD วันที่ 28 พ.ย และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14ธ.ค 2565
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผย บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 ปี 2565 จำนวน 181 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 179% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 45,171 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 47.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 30,585 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากธุรกิจน้ำมันที่มีสัดส่วนประมาณ 95% ของรายได้รวมทั้งหมดเติบโตขึ้น 45.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีมาอยู่ที่ 42,615 ล้านบาท จากราคาน้ำมันขายปลีก หน้าสถานีบริการเฉลี่ยอยู่ที่ 33.32 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 26.0 และปริมาณการขายน้ำมันผ่านทุกช่องทางเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 1,278 ล้านลิตรหรือเพิ่มขึ้น 15 %
ขณะที่ ผลงานงวด 9 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิ จำนวน 951 ล้านบาท ลดลง 13.3% เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 1,097 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI เฉลี่ยอยู่ที่ 98.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขึ้นมา 51.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ ที่ 65.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ ทั้งสิ้น 130,447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 96,159 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจน้ำมัน ขณะที่ Non Oil ก็ยังเติบโตได้ดี โดยมีรายได้ 6,531 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 70.60% จาก 3,828 ล้านบาท
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น สำหรับผลดำเนินงาน ตั้งแต่ ม.ค-ก.ย 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท คิดเป็น 35.7% ของกำไรสุทธิต่อหุ้นซึ่งอยู่ที่ 0.56 บาท จะกำหนดรายชื่อผู้ได้สิทธิรับปันผลวันที่ 29 พ.ย และขึ้น XD วันที่ 28 พ.ย และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14ธ.ค 2565 
