ตลท.จ่อฟัน”MORE”เพิ่มฐานปั่นหุ้น-นอกเหนือโกงค่าหุ้นบล.

Categories : Update News, Stock Market

Public : 11/18/2022

" ยอมรับว่าเป็นอะไรที่ไม่ได้คาดคิด ว่าจะมีการ "โกง"เกิดขึ้นในกรณีการซื้อขายหุ้น MORE ทำให้ บล.เตรียมตัวรับมือไม่ทันเพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น " ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)กล่าว

 ตลาดหลักทรัพย์และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเปิดแถลงข่าวด่วนอีกครั้ง หลังจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต)ได้ออกคำสั่ง ให้บริษัทหลักทรัพย์เอเซียเวลท์(AWS)หยุดประกอบธุรกิจชั่วคราว ฐานะขโมยเงินลูกค้าไปชำระค่าหุ้นให้กับสำนักหักบัญชี(TCH)กว่า 157 ล้านบาท

 ดร. ภากร กล่าวว่า  การออกประกาศของ กลต สั่งระงับการทำธุรกิจของ AWS ซึ่งเป็นบริษัทสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเมื่อกลต.ประกาศตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องสั่ง ระงับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จาก AWS เป็นการชั่วคราว ในส่วนของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าก็จะอนุญาตให้เฉพาะคำสั่งซื้อขายที่เป็นการล้างสถานะที่มีอยู่เดิม จนกว่าสำนักงาน ก.ล.ต. จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ในส่วนของหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อหรือขายหุ้นกับ AWS ได้ แต่ผู้ลงทุนสามารถขอโอนหุ้นที่ฝากกับ AWS ไปฝากยังบัญชีของตนที่เปิดกับโบรกเกอร์อื่นเพื่อซื้อขายต่อได้ กรณีไม่มีบัญชีที่โบรกเกอร์อื่นสามารถโอนเข้าบัญชี Issuer Account (600) ที่ TSD ได้ และเมื่อเปิดบัญชีที่บริษัทหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้วก็สามารถที่จะโอนหุ้นจากบัญชี 600 ไปซื้อขายต่อไป

ขณะที่ในส่วนของอนุพันธ์ ลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อขายเพื่อปิดสถานะได้เท่านั้น โดยไม่สามารถเปิดสถานะได้ ซึ่งหากลูกค้าปิดสถานะแล้วก็สามารถที่จะขอถอนหลักประกันออกไปได้ตามปกติ กรณีลูกค้าไม่ประสงค์จะปิดสถานะแต่ต้องการโอนไปซื้อขายต่อที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ตนมีบัญชีอยู่ก็สามารถแจ้งต่อบริษัทหลักทรัพย์ได้เช่นกัน

   " ยอมรับว่าการประกาศสั่งให้ AWS หยุดกิจการชั่วคราว ของกลต.ไม่ได้มีการแจ้งหรือหารือร่วมกับตลท.มาก่อนเรารู้พร้อมๆกับสื่อทุกๆคน และการทำหน้าที่ในการตรวจสอบหุ้น MOREก็ถือว่าทำคู่ขนานกันไป ใครเกี่ยวข้องส่วนไหนก็ทำ หน่วยงานตรวจสอบเมื่อตรวจเจอ ออกดำเนินการทันที อย่างเช่นที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องสถานะการดูเรื่องเงินกองทุน ก็ต้องถามหน่วยงานกำกับ  แต่ก็ยืนยันอีกครั้งว่า เหตุการระงับการทำธุรกิจชั่วคราวเกิดขึ้นเป็นการเฉพาะรายเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทหลักทรัพย์รายอื่นๆ  ทั้งนี้บริษัทหลักทรัพย์อื่นยังให้บริการตามปกติ โดยกลุ่มตลาดหลักทรัพย์จะมีการติดตามฐานะการเงินของบริษัทหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด  "

 ดร. ภากร กล่าวว่า  สำหรับความคืบหน้ากรณีซื้อขายหลักทรัพย์ MORE ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 กรณี ซึ่งในส่วนของความผิดเรื่องฉ้อโกงบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ปัจจุบันมีการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเบื้องต้นจะมีการนำส่งข้อมูลให้ทันในช่วงบ่ายวันนี้ (18 พ.ย.65)

ด้านความผิดกรณีการสร้างราคาหลักทรัพย์ (ปั่นหุ้น) ตลท.กำลังเก็บข้อมูลหลักฐานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี้ มองว่าตลท.ถือเป็นด่านหน้าในการเก็บข้อมูลหลักฐานส่งให้กับผู้กำกับดูแล ซึ่งสำหรับในเรื่องของการฉ้อโกงนั้นทางโบรกเกอร์ถือเป็นผู้เสียหายและทางตำรวจและปปง.เป็นผู้ร้องขอข้อมูลมา ตลท.จึงต้องมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลและส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางตำรวจและปปง.จะช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินและถือเป็นประโยชน์ในการฟ้องร้องเรื่องปั่นหุ้นต่อไป

ขณะที่การปลดเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์ MORE มองว่าตลท.พิจารณาอยู่ทุกวัน เพราะหากกรณีดังกล่าวมีความชัดเจนก็จะมีการเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ได้

"อยากให้ผู้ลงทุนและประชาชนมั่นใจระบบของตลาดทุน เพราะที่ผ่านมาเรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและจะปรับปรุงให้ดีและเข้มแข็งขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรวดเร็วได้ในอนาคต" นายภากร กล่าว

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่าที่ผ่านมาสมาคมฯได้พูดคุยกับสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เฉพาะแค่กรณีนี้ แต่ดูทั้งภาพใหญ่ โดยมีลักษณะนี้แค่เพียง 1 เคส ส่วนโบรกเกอร์อื่นๆยังไม่ได้ยิน ส่วนเรื่องการกำกับดูแลทุกบริษัทจะมีการตรวจสอบตลอดเวลา ซึ่งผู้กำกับจะดูความเสี่ยงของแต่ละบริษัทและเข้ามาตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามในส่วนของเงินกองทุน NCR ของแต่ละโบรกฯ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดและอ่อนไหวมาก และมองว่าการเปิดเผย NCR อาจสร้างความไม่เข้าใจได้ง่าย รวมถึงไม่ได้ช่วยได้เท่าไหร่ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละวันและการให้รายงาน NCR ทุกวันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย