สำนักงานสลากฯ งัดสารพัดมาตรการสู้สลากเกินราคา เตรียมเพิ่มสลากดิจิทัลเป็น 17.1 ล้านฉบับ

Categories : Update News, Finance

Public : 12/29/2022

สำนักงานสลากฯ แจง สลากดิจิทัลผ่านแอปเป๋าตัง ผลตอบรับดี งวด 17 .. 66 เพิ่มเป็น 17.129 ล้านฉบับ พร้อมโอนเงินรางวัลเข้าทุกบัญชี ภายใน 2 ชั่วโมง เตรียมออกสลากแบบเลข 3 หลัก หรือ  N3  และสลากแบบ L6 เพิ่มทางเลือกให้ประชาชน ล่าสุดยกเลิกโควตาแล้วกว่า 23,000 ราย

     

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ เตรียมเดินหน้าแก้ปัญหาสลากเกินราคา สู่โร้ดแมประยะที่ 3 อยู่.  ระหว่างการออกผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่ ขณะนี้ ได้สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการออกสลากแบบเลข 3 หลัก หรือ  N3  และสลากแบบ   L6 โดยเฉพาะ N3 จะเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนในการซื้อสลากได้ในราคาตามกฎหมายเพิ่มเติม จากที่สามารถซื้อได้ในระบบสลากดิจิทัลและจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ซึ่งสำนักงานฯ  ได้นำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ หากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ สำนักงานฯ สามารถดำเนินการได้ทันที

 

สำหรับ การดำเนินตามโร้ดแมป ระยะที่ 2 ก่อนหน้านี้  ได้พัฒนาระบบจำหน่ายสลากฯ โดยจัดให้มีโครงการซื้อ-จอง ล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล ผ่านธนาคารกรุงไทย ควบคู่ไปกับระบบจำหน่ายผ่านตัวแทนระบบเดิม ทำให้มีสลากฯกระจายไปทั่วประเทศ  ปัจจุบัน มีสลากในระบบซื้อจองล่วงหน้า 50% ของปริมาณสลากทั้งหมดที่พิมพ์ออกจำหน่าย 

นอกจากนี้ สำนักงานฯ ได้ดำเนินการจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง ผ่านมาแล้วรวม 13 งวด ทำให้การจำหน่ายสลากดิจิทัล มีความคล่องตัว เมื่อถูกรางวัลสามารถเลือกรับเงินผ่านการโอนเข้าบัญชีของทุกธนาคารได้ภายใน 2 ชั่วโมง สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก จนถึงขณะนี้ ได้มีการเพิ่มปริมาณสลาก โดยในงวด 17 มกราคม 2566 จะมีปริมาณสลาก 17,129,000 ใบ เป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย 34,258 ราย ทั้งนี้ ปริมาณสลากเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา 901,500 ใบ

ขณะที่ จุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งเป็นสลากใบ ที่มีการกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศอีก 1,047 จุด จำนวนสลากประมาณเกือบสามล้านฉบับ ทำให้ขณะนี้ มีสลากที่จำหน่ายในราคาไม่เกิน 80 บาท ตามราคาที่กำหนดอย่างน้อย 19.5 ล้านฉบับ คิดเป็นเกือบร้อยละ 20 ของปริมาณสลากทั้งหมด 100 ล้านฉบับ ทำให้ผู้ซื้อสลากมีทางเลือกในการซื้อสลากในราคา 80 บาท ได้อย่างสะดวก

ขณะที่ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ ปี 2558 เป็นต้นมา ในระยะแรก เป็นการจัดระเบียบและการบังคับใช้กฎหมาย ได้มีการปรับระบบการจัดสรรสลากตัวแทนรายย่อยให้เหลือรายละ 5 เล่ม เท่ากันหมดทุกคน โดยให้เฉพาะนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรและองค์กรการกุศล และองค์กรคนพิการเท่านั้น มีการปรับสัดส่วนเพิ่มกำไรให้กับตัวแทนจำหน่าย โดยเพิ่มส่วนลดให้จากเดิม 7% ได้กำไรฉบับละ 5.60 บาท ปรับเป็น 12% ได้กำไร ฉบับละ 9.60 บาท เพื่อให้ตัวแทนรายย่อยมีกำไรมากขึ้น  มีการเปลี่ยนแปลงรางวัลสลาก โดยปรับรางวัลเลยท้าย  3 ตัว จากเดิม 4 รางวัล เปลี่ยนเป็นรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัล และรางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัล เพื่อแก้ปัญหาเรื่องสลากฯ เลขไม่สวย ขายไม่หมดเพิ่มปริมาณสลากต่องวดให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อลดปัญหาเกินราคา 

นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง  เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายสลาก และมีการใช้มาตรการทางกฎหมายบังคับใช้ โดยในปี 2565 ได้ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว 23,689 ราย

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการตรวจสอบการจำหน่ายสลากของตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อ-จองฯ ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำสลากไปจำหน่ายต่อให้กับแพลตฟอร์มเอกชนต่างๆ หรือไม่ได้จำหน่ายด้วยตนเอง ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบสลากที่ถูกรางวัลจากการที่นำสลากนั้นมาขึ้นเงินรางวัล หากพบว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ซื้อจองรายใด จะใช้มาตรการเด็ดขาดในการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายสลาก รวมถึงการเบิกสลากที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจำหน่ายสลากของสมาคม องค์กร ให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด

ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินการกับแพลตฟอร์มเอกชนที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด ไม่ว่าจะรวมค่าบริการเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม สำนักงานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักงานฯ ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานขายสลากเกินราคา ปัจจุบันศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายฯ (ปิดเว็บไซต์)  ไปแล้ว 12 แพลตฟอร์ม กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอุทธรณ์ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  2 แพลตฟอร์ม และอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล จำนวน 1 ราย  ในขณะเดียวกันสำนักงานฯ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องทุกงวด