EXIM BANK โชว์ผลดำเนินงานปี 65 ตัวเลขโตแบบก้าวกระโดด ทำกำไรได้กว่า 1,500 ล้านบาท

Categories : Update News, Finance

Public : 01/30/2023

EXIM BANK สร้างปาฏิหาริย์ผลการดำเนินงานปี 65 โตก้าวกระโดด กำไรกว่า 1,500 ลบ. ส่วนในปี 66 ตั้งเป้าหมายยอดสินเชื่อคงค้างไม่น้อยกว่า 1.8 แสนล้านบาท พร้อมชูนโยบาย BCG สร้างระบบนิเวศสีเขียว ชูธงขยายสินเชื่อกลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 50%  ของสินเชื่อปล่อยใหม่ภายในปี 68

   

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานปี 2565 และนโยบายปี 2566 ว่า ผลจากนโยบายและการดำเนินงานภายใต้บทบาท ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย และบทบาทใหม่ของ EXIM BANK ที่ กล้าพัฒนาเพื่อคนไทย ทำให้การดำเนินงานของธนาคารในปี 2565 เติบโตระดับสองหลักในมิติต่าง ๆ ดังนี้ ยอดคงค้างสินเชื่อ 168,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,558 ล้านบาท หรือ 10.18% จากปีก่อน วงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 94,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 19.21% จากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะการขยายตัวของสินเชื่อในกลุ่ม SME เพิ่มขึ้นถึง 17.91  ปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกัน 169,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 10.34% จากปีก่อน

ทั้งนี้ คิดเป็นจำนวนลูกค้าทั้งด้านสินเชื่อและรับประกัน 6,102 ราย เพิ่มขึ้นสูงถึง 24.00% จากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการกว่า 21,000 ราย วงเงินรวมกว่า 90,000 ล้านบาท

   

Exim Bank ผลดำเนินงานปี 65

สำหรับยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ  NPL Ratio อยู่ที่ระดับ 2.90%  และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 12,821 ล้านบาท  คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้  262.99% และมีกำไรจากการดำเนินงาน 2,737 ล้านบาท  คิดเป็นกำไรสุทธิที่ 1,504 ล้านบาท  แม้จะมีการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการตรึงดอกเบี้ย Prime Rate มานานกว่า 6 เดือน ต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566 ก็ตาม

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า สำหรับปี 2566 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอลงชัดเจน ธนาคารโลกและ The Economist Intelligence Unit (EIU) หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจชั้นนำของโลก คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 2% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี เป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทย คาดว่าจะเติบโตได้เพียง 2%  เนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป

 

โดย EXIM BANK พร้อมทำหน้าที่ Miracle Maker พัฒนาธุรกิจไทยให้ส่งเสริมการบุกตลาดการค้าการลงทุนที่มีศักยภาพและยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้ได้มาตรฐานสากล ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ มียอดสินเชื่อคงค้างไม่น้อยกว่า 180,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มปรับสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อเน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy)ให้ได้ไม่น้อยกว่า 50% ของสินเชื่อปล่อยใหม่ในปี 2568  เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ Supply Chain การส่งออก มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ รวมทั้งเตรียมออก GREEN BOND เพื่อช่วยคนตัวเล็ก มีวงเงินราว 5,000ล้านบาท

ในการขับเคลื่อน BCG Economy EXIM BANK ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญอันดับแรกกับการดูแลเอาใจใส่พนักงาน จัดให้มีสวัสดิการยืดหยุ่นรองรับความต้องการของแต่ละบุคคล เพิ่มพูนความรู้โดยเฉพาะ Future Skills อันดับต่อมาคือ การดูแลบ้าน EXIM BANK ให้ดำเนินธุรกิจที่เสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจ BCG อย่างต่อเนื่องและครบวงจร คู่ขนานกับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในมิติของการดูแลคนตัวเล็กในชุมชน โดยเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน ให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีความรู้ทางการเงินสำหรับเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจที่เชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออกไปเวทีโลก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน