MINT ประเดิมวันแรก ขาย Perpetual Bond ดอกเบี้ย 5 ปีแรก 6.1% ต่อปี

MINT ประเดิมวันแรก ขาย Perpetual Bond ดอกเบี้ย 5 ปีแรก 6.1% ต่อปี กระแสตอบรับดีเกินคาด ประชาชนทั่วไปจองซื้อล้นหลาม มั่นใจขายได้ตามเป้าหมาย สะท้อนความเชื่อมั่นของการเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจพักผ่อนและสันทนาการที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า ผลตอบรับของการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งที่ 1/2566 (MINT23PA) ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งเปิดขายวันแรก พบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนทั่วไปรวมถึงนักลงทุนเข้าจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ อย่างล้นหลาม นับเป็นสัญญาณที่ดี ซึ่ง MINT คาดการณ์ว่าจะขายได้ตามจำนวนที่ตั้งเป้าไว้

สำหรับการที่นักลงทุนให้ความสนใจหุ้นกู้ด้อยสิท ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตเต็มรูปแบบ (Back to Growth) และเราพร้อมเปิดรับทุกคนที่มองเห็นโอกาสในการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความผูกพันแห่งความสำเร็จภายใต้แนวคิด “Bond with Us ไปด้วยกัน”

ทั้งนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ครั้งที่ 1/2566 (MINT23PA) ไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนด และมีสิทธิเลื่อนชำระดอกเบี้ยโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ มีอัตราดอกเบี้ยช่วง 5 ปีแรกของหุ้นกู้ที่ 6.10% ต่อปี โดยกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใดก็ได้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ โดยไม่จำกัดระยะเวลาและจำนวนครั้งตามดุลยพินิจของผู้ออกหุ้นกู้แต่เพียงผู้เดียว อัตราดอกเบี้ยจะปรับทุก ๆ 5 ปี โดยอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี

พร้อมเสนอขายให้นักลงทุนที่กำลังมองหาโอกาสลงทุนในหุ้นกู้จากบริษัทระดับนานาชาติที่มีความมั่นคง มีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ผ่านสถาบันการเงินทั่วประเทศทั้ง 11 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส