“HOKA”จาก 8,000 สู่ 100,000 คู่ ตั้งเป้าเป็นที่1แบรนด์รองเท้าวิ่งที่ใช้แผ่นคาร์บอนเพื่อทำความเร็ว เป็นอันดับ 1 ที่นักวิ่งเลือกใช้

Categories : Update News, PR News

Public : 02/16/2023
"เรฟ อีดิชั่น" บริษัทผู้นำ  เข้าแบรนด์ “HOKA (โฮก้า)”มาจัดจำหน่ายในประเทศไทย เมื่อปี 2561  หรือประมาณ 5 ปี ในโอกาสครบรอบ 5 ปีในปี 2566 จัดงานยิ่งใหญ่เปิดตัวรองเท้า HOKA Clifton 9  ครองตลาดเบอร์หนึ่งรองเท้าวิ่งในประเทศไทย   พร้อมเปิดเป้าหมายใน 3-5 ปีข้างหน้าภายใต้ผู้นำที่มีเทคโนโลยีในการผลิตที่เป็นผู้นำและมีประสบการณ์ในการผลิต ยังคงเป็นการมอบประสบการณ์การวิ่งที่ดีที่สุดผ่านผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยตั้งเป้าไว้ในการเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งที่ใช้แผ่นคาร์บอนเพื่อทำความเร็ว เป็นอันดับ 1 ที่นักวิ่งเลือกใช้

นายพรศักดิ์ ชินวงศ์วัฒนา (CEO) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด กล่าวว่า   HOKA แบรนด์รองเท้าวิ่งจากประเทศฝรั่งเศสที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และครั้งแรกของการตัดสินใจนำเข้ามาจำหน่ายเมื่อปี 2561จากเริ่มแรกปีแรก เรามียอดขาย จำนวน8,000คู่แต่เมื่อมาถึงตอนนี้ หรือเมื่อปิดปี 2565 ยอดขายเกิดขึ่น 100,000 คู่ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า แบรนด์   "HOKA"  เป็นแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในใจของนักวิ่งและคนรักสุขภาพนิยม

อย่างไรก็ตาม HOKA ก็ไม่หยุดพัฒนาเพื่อให้ลูกค้าและนักวิ่งได้รับประสบการณ์ ที่ดีในการวิ่ง ปลอดภัยไม่เจ็บ  ล่าสุด จัดงานเปิดตัวรองเท้า “HOKA Clifton 9” รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่ล่าสุดประจำตระกูล Clifton ที่กลับมาพร้อมเมเจอร์เชนจ์ในรอบ 2 ปี ภายใต้ คอนเซ็ปต์ “Enter Running Bliss” ซึ่งต้องการให้รองเท้า “Clifton 9” เป็นโมเดลรุ่นยอดนิยม ใส่ง่าย ใส่สบายในทุกเพศทุกวัย เหมาะสำหรับการใส่เดินเที่ยว ใส่ยืนนานๆ และใส่ออกกำลังกายแบบเบาๆ ซึ่งเป็นรองเท้าวิ่งสายคอมฟอร์ตซูส์ ถูกคิดค้นเพื่อใช้สำหรับการวิ่งออกกำลังกายได้ทุกวันเหมาะสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่หรือนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าวิ่งสำหรับใส่ซ้อมในทุกวัน โดยเฉพาะสีสันที่ใส่ความเป็นไลฟ์สไตล์และแฟชั่นมากขึ้น ไม่ได้เน้นสี color block เหมือนรองเท้าวิ่งรุ่นอื่นๆที่ผ่านมา ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“Clifton 9” สามารถลดน้ำหนักรองเท้าลงได้ถึง 4 กรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า พร้อมเพิ่มความหนาของพื้นสูงขึ้นถึง 3 มม. เพื่อยกระดับรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบาและความนุ่ม มอบประสบการณ์ความนุ่มสบายใต้ฝ่าเท้ากับพื้นชั้นกลางรูปแบบใหม่และยังมีการปรับปรุงพื้นรองเท้าชั้นนอกใหม่ ส่วนบนมาพร้อมกับส้นเท้าที่ออกแบบมาเพื่อให้สวมใส่ง่าย จุดสะท้อนแสงที่ส้นเท้าและลิ้นรองเท้าที่คล่องตัว เพื่อให้เหล่านักวิ่งค้นพบความสุขในการวิ่งและกลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน ด้วยพื้นชั้นกลาง compression-molded EVA ที่มีน้ำหนักเบาและการตอบสนองที่ดี พร้อมมีการวางโครงสร้างแบบ early-stage Meta-rocker อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ไหลลื่นอย่างสม่ำเสมอ คอยส่งให้นักวิ่งสามารถก้าวเท้าออกไปได้อย่างราบรื่นตั้งแต่กิโลเมตรแรกจนถึงกิโลเมตรสุดท้าย

 “Clifton 9” ที่ปรับโฉมใหม่นี้มอบประสบการณ์ความสมบูรณ์แบบระหว่างความนุ่มและน้ำหนักเบา มาในดรอป 5 มม. ความสูงของปลายเท้า 24 มม. ความสูงของส้นเท้า 29 มม. สำหรับผู้หญิง และความสูงของปลายเท้า 27 มม. ความสูงของส้นเท้า 32 มม. สำหรับผู้ชาย มีน้ำหนักน้ำหนัก 7.3 ออนซ์ สำหรับผู้หญิงในไซซ์ 7 และ 8.7 ออนซ์สำหรับผู้ชายในไซซ์ 9 HOKA Clifton 9 ราคา 5,290 บาท

นายพรศักดิ์ กล่าวว่า นอกเหนือจาก “HOKA” จะเป็นผู้นำทางด้านรองเท้าวิ่งแล้ว แบรนด์ยังมีสินค้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ อาทิ เช่นสินค้ากลุ่มเดินเขา (hiking), เดินป่า (trekking), รองเท้าแตะเพื่อสุขภาพ (Ora recovery) และล่าสุดกำลังจะมีการ Launch รองเท้ากลุ่ม Transport ซึ่งเป็นรองเท้ากลุ่มไลฟ์สไตล์ที่เหมาะกับกลุ่มคนที่ชอบความคล่องตัวในการเดินทาง เช่น การปั่นจักรยานในเมืองเป็นต้น

บริษัท เรฟ อีดิชั่น จำกัด ได้เล็งเห็นถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่ท้าทายและถือเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์ในประเทศไทย ทั้งนี้ยังคงให้ความสนใจกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์ และแฟชั่นมากขึ้น ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่การออกกำลังกาย จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิตประจำวันสำหรับพวกเขาในอนาคต ซึ่งจะเห็นได้จากรองเท้า Collabroration Collection ที่ได้ร่วมมือกับศิลปินระดับโลก หรือศิลปินที่ดังในหมู่สายสตรีทแวร์ในเมืองนิวยอร์ค ในบางรุ่นเพื่อออกแบบรองเท้าให้ตอบโจทย์สายแฟชั่น โดยรุ่นดังกล่าวของ HOKA จะมีกลยุทธ์ในการวางจำหน่ายแบบลิมิเต็ดเพียงไม่กี่คู่ในประเทศ และลงจำหน่ายแค่เฉพาะ selected door เท่านั้น เช่น Atmos Bangkok เป็นต้น ทำให้เห็นว่าแบรนด์ “HOKA” เองมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและยังมีโอกาสทางการตลาดที่จะขยายฐานลูกค้าไปได้กว้างอีก โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง กลุ่มสายแฟชั่น กลุ่มสายท่องเที่ยวแบบแคมป์ปิ้ง ไฮกิ้ง เทรกกิ้ง หรือกลุ่มคนที่ต้องการการซัพพอร์ตจากการยืน เดิน นานๆในการทำภารกิจ หรือกิจวัตรประจำวันอีกด้วย

ดังนั้น กลยุทธ์ทางการตลาดในปีนี้ จึงมุ่งเน้นการขยายโอกาสในการเข้าถึงทั้งกลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นนักวิ่ง และกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เป็นโอกาส ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจการออกกำลังกาย กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบในสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ กลุ่มคนที่ยืน-เดินนานๆ หรือต้องการการซัพพอร์ตจากรองเท้าคอมฟอร์ตชูส์ (Comfort Shoes) ที่มีพื้นรองเท้าที่ หนา นุ่ม แต่มีน้ำหนักเบา ช่วยในการซัพพอร์ตนำหนักตัวได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่ซื้อรองเท้า HOKA กลับไปยังประเทศของตัวเอง เนื่องจากกลยุทธ์ของแบรนด์เอง ไม่ได้มุ่งเน้นในการเปิดร้านค้าแบบ stand alone มากนัก จึงไม่มีร้านค้าของ “HOKA” ในหลายๆประเทศ ทำให้ร้าน HOKA Experience Store ทั้ง 2 สาขา เป็นเสมือน tourist destination ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาดูรองเท้ารุ่นใหม่ๆ และซื้อกลับไป และเพื่อเป็นการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงจุดขายที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการรับรู้ทางสื่อดิจิตอลนอกบ้าน หรือ Out-Of-Home Media มากขึ้น รวมไปถึงการวางแผนกลยุทธ์ผ่านช่องทาง โซเชียล มีเดีย อย่างต่อเนื่อง โดยตอกย้ำทิศทางนี้ด้วยร้าน HOKA Experience Store 2.0 สาขาใหม่ ณ ศูนย์การค้า เมกาบางนา ชั้น 2 ที่เปิดตัวเมื่อปลายปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา และ ร้าน HOKA Experience Store 2.0 คอนเซ็ปต์สโตร์ที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ HOKA ได้ง่ายขึ้น ที่จะเปิดที่ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ พร้อมทั้งพัฒนาช่องทางออนไลน์และอีคอมเมิร์ช ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายปัจจุบันให้มากขึ้น

ส่วนในแง่การสื่อสารแบรนด์ มุ่งเน้นกลยุทธ์สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านทาง global campaign และทำให้เข้าถึงตลาดโลคอล (Global to local) ผ่านกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ ทั้งจากแบรนด์เอง และการร่วมมือกับพันธมิตรผ่านช่องทางโซเซียลมีเดีย ในขณะที่ยังคงมอบประสบการณ์การลองสินค้าผ่านกิจกรรมต่างๆของ “HOKA” ตลอดทั้งปีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 นี้จะยังคงเห็นแท็คไลน์ของแบรนด์นั่นคือ “FlyHumanFly” ซึ่งมาเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในทุกการสื่อสาร ที่จะเป็นสโลแกนและแคมเปญยาวตลอดปี เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ของ “HOKA” ผ่านทางผู้คน ชุมชน และนักกีฬาของแบรนด์ เนื่องจากคำว่า “HOKA” เป็นภาษาเมารี ที่แปลว่า “บินอยู่เหนือพื้นดิน” อีกทั้งด้วยลักษณะพิเศษของรองเท้า Maximalist ที่หนา แต่น้ำหนักเบา ทำให้รองเท้าวิ่งของ “HOKA” เป็นที่ยอมรับในหมู่นักวิ่งทั่วโลก โดยมีจุดหมายเพื่อสนับสนุนให้ทุกคนกล้าที่จะออกมาวิ่ง ออกมาใช้ชีวิต และสนุกสนานไปกับเรื่องราวระหว่างทางที่วิ่งอย่างไร้กังวลเหมือนคนที่มีอิสระ จนทำให้รู้สึกเหมือนบินได้ในขณะวิ่ง

สำหรับภาพรวมของธุรกิจรองเท้ากีฬาในปี 2566 ในประเทศไทย/เอเชีย และทั่วโลก ทางแบรนด์มองเห็นว่า แนวโน้มตลาดปี 2023 นี้ เป็นปีที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น และเต็มไปด้วยสินค้าที่น่าสนใจมากมาย และเนื่องจากการกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติหลังสถานการณ์โควิด -19 ที่ผู้คนสามารถออกมาทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้ง ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ออกกำลังกาย หรือการไปร่วมการแข่งขันงานวิ่งสายถนนและวิ่งเทรลต่างๆ

ดังนั้น การโฟกัสที่กลยุทธ์ออนไลน์อย่างเดียว อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ทางแบรนด์ได้มุ่งเน้นในการสร้างปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มลูกค้าและแบรนด์มากขึ้นผ่านการสร้างคอมมิวนิตี้วิ่งที่แข็งแรงขึ้นของ “HOKA” ที่เรียกว่า HRC (HOKA Running Club) ด้วยโปรแกรมการเทรนและการวิ่งที่มุ่งเน้นในการพัฒนาศักยภาพของนักวิ่ง นำเทรนโดยโค้ชนักกีฬา “HOKA” และยังมีรองเท้าวิ่งรุ่นต่างๆที่ปล่อยออกมาให้นักวิ่งได้ทดลองอีกด้วย

ปัจจุบัน รองเท้าวิ่งเทรลของ “HOKA” ได้ก้าวมาเป็นอันดับหนึ่งในตลาดรองเท้าวิ่งสายเทรลของประเทศไทยแล้ว และด้วยเอกลักษณ์ของรองเท้า “HOKA” เองด้วยความเป็น Maximalist / Cushioning หนานุ่มเด้ง เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี ทำให้แบรนด์ “HOKA” เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ถ้าหากเราเข้าถึงกลุ่มคนได้มากขึ้น กว้างขึ้น หลากหลายขึ้น และมอบประสบการณ์การลองรองเท้าให้ลูกค้าได้ลองสวมใส่ ประกอบกับกิจกรรมต่างๆที่ช่วยสร้างคอมมิวนิตี้ ชุมชนคนวิ่งออกกำลังที่น่ารัก สนุกสนาน และได้ความรับความรู้จากนักกีฬาระดับอีลิทของ “HOKA” เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์นั้น ประกอบกับกิจกรรมทางการตลาดทางออนไลน์ เพื่อให้เกิดการรับรู้ข้อมูล ข่าวสาร ของสินค้าและกิจกรรมอย่างต่อเนื่องนั้น ทางแบรนด์มีความเชื่อมั่นมากว่าเราจะสามารถก้าวเข้าสู่ความเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งอันดับหนึ่งในสายถนนได้ไม่ยาก

 เป้าหมายของ “HOKA” ในระยะ 3-5ปี สำหรับตลาดรองเท้ากีฬา ยังคงเป็นการมอบประสบการณ์การวิ่งที่ดีที่สุดผ่านผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับกลุ่มเป้าหมายของเรา โดยตั้งเป้าไว้ในการเป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งที่ใช้แผ่นคาร์บอนเพื่อทำความเร็ว เป็นอันดับ 1 ที่นักวิ่งเลือกใช้ และไม่ใช่เพียงรองเท้าวิ่ง แต่ยังรวมไปถึงการเติบโตของเสื้อผ้าสำหรับการออกกำลังกาย และรองเท้าไลฟ์สไตล์ ที่ตอบโจทย์สายแฟชั่นและท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งสัดส่วนของตลาดแบรนด์กีฬาในภาพรวมทั้งหมดจะมีสัดส่วนอยู่ที่ ผู้ชาย 70% และผู้หญิง 30% โดยสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าของ HOKA เองจะมีสัดส่วนเป็นผู้ชาย 60% และผู้หญิง 40% ในขณะที่ภาพรวมของสัดส่วนของกลุ่มลูกค้าโดยรวมของแบรนด์จะเป็นผู้ชาย 55% และผู้หญิง 45%

ทั้งนี้ “HOKA (โฮก้า)”   ประเทศไทย ได้เปิด HOKA Experience Store สาขาที่ 2 ไปเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ที่เรียกว่า HOKA Experience Store 2.0 ที่ศูนย์การค้า เมกาบางนา ชั้น 2 ซึ่งถือเป็นช้อปที่ 3 ของช็อปคอนเซ็ปต์ใหม่ และเป็นสาขาที่ 6 ในเอเชียแปซีฟิก และมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในปี 2566 นี้