AITกธงเป้าหมายรายได้ปีนี้ 7,000 ล้านบาท โชว์ผลงานปี 65 ทำรายได้ 6,727 ล้านบาทจ่ายเงินปันผล 0.17 บาท

Categories : Update News, Stock Market

Public : 02/17/2023
 

AIT ก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 ‘The Next Decade’ ขับเคลื่อนธุรกิจในคอนเซปต์ DECADE ปักธงเป้าหมายรายได้ปีนี้ 7,000 ล้านบาท พร้อมโชว์ผลงานปี 65 ทำรายได้ 6,727 ล้านบาท ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 0.17 บาทต่อหุ้น เตรียมขึ้น XD 20 เมษายน 2566

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารครบวงจร เปิดเผยผลประกอบการประจำปี 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จำนวน 6,727 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 7,035 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 527 ล้านบาท ถือเป็นการรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทยอยส่งมอบงานให้แก่ลูกค้าทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ ได้แก่ โครงการซื้อขายและติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ (ระยะที่ 2) ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร, โครงการงานจ้างพัฒนาระบบติดตามขบวนรถไฟและจัดการงานขนส่งสินค้าของการรถไฟแห่งประเทศไทย, โครงการซื้อขายระบบสำหรับขยายบริการ GDCC (VM) ของ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า จากผลดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัทมีมติอนุมัติเสนอจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.17 บาท (พาร์ 1 บาท) โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 20 เมษายน 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯในวันที่ 11 เมษายนนี้ เห็นชอบจากมติบอร์ด

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้จ่ายเงินปันระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 เมื่อรวมมติบอร์ดครั้งนี้ ส่งผลให้ปี 2565 บริษัทฯจ่ายเงินปันผลรวมอัตราหุ้นละ 0.32 บาท ส่วนผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิวอแรนต์ AIT-W2 ครั้งที่ 2 และต้องการใช้สิทธิ สามารถแสดงความจำนงได้ระหว่างวันที่ 24-30 มีนาคมนี้ โดยกำหนดวันใช้สิทธิวันที่ 31 มีนาคมนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์บริษัท https://investor-th.ait.co.th/warrant_holders.html ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป

นายศิริพงษ์ กล่าวว่า สำหรับปี 2566 ถือเป็นการเริ่มต้นของบริษัทก้าวสู่ทศวรรษที่ 4 จึงวางคอนเซปต์การขับเคลื่อนธุรกิจสู่ “The Next Decade” ภายใต้คำว่า ‘DECADE’ คือ D: Determined มีความมุ่งมั่น E: Elaborated มีความละเอียดรอบคอบ C: Connection มีเครือข่ายที่แข็งแรง A: Ambitious มีความทะเยอทะยานสู่ความสำเร็จ D: Dare ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย และ E: Expansion มีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 7,000 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งมาจากมูลค่างานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) ซึ่ง ข้อมูล ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 มีมูลค่างานในมือจำนวน 6,700 ล้านบาท รวมถึงงานอยู่ระหว่างรอคำสั่งซื้อจากลูกค้า (Waiting for P/O) อีกจำนวน 150 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งมาจากแผนงานของทางฝ่ายขายที่ได้วางเป้าหมายตามแผนกลยุทธ์ที่กำหนดไว้

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นสิ่งสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.ขยายพื้นที่การขายและเพิ่มฐานลูกค้า (การเน้นลูกค้า) เน้นขายที่มีลักษณะเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า เช่น ให้คำปรึกษาร่วมกับการขายสินค้า (Consultancy Selling) มากกว่าการมุ่งเน้นขายสินค้าในลักษณะซื้อมาขายไป 2.นำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มเติม (การเน้นประสิทธิภาพ) เพื่อเสริมการบริหารงานภายในให้สามารถทำงานได้อย่าง Fully Automation และ 3.การบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (เน้นกำไร)

นายศิริพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต รวมถึงการปลูกป่าสักเชิงเศรษฐกิจจำนวนประมาณ 1,000 ไร่ ว่าปัจจุบันได้ดำเนินการหาที่ดินสำหรับปลูกป่าเรียบร้อยแล้ว ที่อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา