KCC ท็อปฟอร์ม ปิดปี 65 กำไรพุ่ง 47.35% ลุยซื้อหนี้ทะลุเป้า หนุนพอร์ตรวม NPLs โตขึ้น135.62%

Categories : Update News, Stock Market

Public : 02/20/2023

“KCC” โชว์ฟอร์มหรูปี 2565 อวดกำไรสุทธิ 77.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.35% รายได้ 170.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น35.58% เหตุนำเงินที่ได้จาก พีโอ ลุยลงทุนซื้อหนี้930 ล้านบาท ทะลุเป้าหมาย ดันพอร์ตหนี้ NPLs โตแตะ1,332.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.62% ตอกย้ำจุดแข็งแกร่งมาร์จิ้นยังสูงเกิน 80% บอร์ดใจดีปันผลอีกหุ้นละ 0.0212 บาท รวมทั้งปี 0.0591 บาทต่อหุ้น

ยทวี กุลเลิศประเสริ ประธานเ้าหน้าที่บริหาริษั บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับ แคปปิตอล จำกัด(มหาชน) หรือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการ                     ทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัทมกำไรสุทธิในปี 2565               จำนวน 77.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น47.35% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 52.42 ล้านบาท  

ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานในปี 2565จำนวน 170.49 ล้านบาท ซึ่งรายได้ของบริษัทฯ                    ส่วนใหญ่มาจาก 2 ธุรกิหลัก ได้แก่ 1. ธุรกิจริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) ที่มีรายได้ 164.22ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 96.33% ของรายได้ทั้งหมดและ 2. ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) ที่มีรายได้              5.95 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.49%

 

ประธานเจ้าหน้ที่บริหาร .บริหารสินทรัพยไนท คลับ แคปปิตอล กล่าวว่า ผลดำเนินงานของบริษัท                 ที่เติบโตเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการขายเงินให้สินเชื่อจากการซื้อลูกหนี้ อย่างไรก็ตาม มีการตั้งผลขาดทุนด้านครดิตฯ บนรายได้ดอกเบี้ยที่รับรู้ในปีเพิ่มขึ้นด้ว อีกทั้งบริษัทได้นำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และเงินจากการออกหุ้นกู้รวมกันกว่า 924 ล้านบาท เข้าลงทุนซื้อหนี้ NPLs อย่างต่อเนื่อง โดย ปี 2565 บริษัทลงทุนซื้อหนี้NPLs ทั้งสิ้น 930 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะลงทุนซื้อหนี้ NPLs 800 ล้านบาท ส่งผลให้พอร์ตหนี้ NPLs รวม สิ้นปี 2565 ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1,332.61ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135.62% จากสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 565.56ล้านบาท  

นายทวี กล่าวว่า บริษัทยังคงรักษาความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจโดยเฉพาะความสามารถในการทำกำไรยังคงอยู่ในระดับสูง โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ในระดับที่สูงกว่า 80% ซึ่งผลดำเนินงานที่เติบโตขึ้น รวมกับการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai หนุนให้ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 บริษทฯ มีส่วนของเจ้าของเท่ากับ 1,095.02 ล้านบาท พิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 จำนวน634.41 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 137.73 %

ทั้งนี้ ผลดำเนินงานเติบโตขึ้นส่งผลให้คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอีกหุ้นละ 0.0212 บาท เท่ากับทั้งปีบริษทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถทอหุ้นทั้งสิ้นหุ้นละ 0.0591 บาท หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ได้อนุมัติจ่ายไปแล้วหุ้นละ 0.0379บาท คิดเป็นเงิน 23.50 ล้านบาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 27 เมษายน 2566 และวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 26 มษายน 2566