NRF เปิดแผนกลยุทธ์ 2566 รุก “แพลตฟอร์มเพื่อผู้ส่งออกไทย เน้นมอบประสบการณ์ส่งออกระดับโลก ” มุ่งเป้าลูกค้าต้องที่หนึ่ง รุกตลาดครั้งใหญ่

Categories : Update News, Stock Market

Public : 02/28/2023

NRF เปิดแผนกลยุทธ์ 2566 รุก  "แพลตฟอร์มเพื่อผู้ส่งออกไทย เน้นมอบประสบการณ์ส่งออกะดับโลก " มุ่งเป้าลูกค้าต้องที่หนึ่ง  รุกตลาดครั้งใหญ่ภายใต้แนวคิด ธุรกิจอาหารเปลี่ยนโลกอย่างยั่งยืน และสร้างพลังสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร เพื่อมุ่งสู่ Net Zero ภายใน2573

แดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า หัวใจสำคัญของเราคือ Food for Generations วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผลิตอย่างมีมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อทุกเจเนเรชั่น  ซึ่งในปีนี้เราจะขับเคลื่อนธุรกิจของ NRF เพื่อการต่อยอดธุรกิจภายใต้กลยุทธ์  D2C (Direct-to-consumer) เพราะเราเล็งเห็นแนวโน้ม การเติบโตของ ผู้บริโภคในโซนยุโรป โดยมูลค่าการบริโภคร้านอาหารเอเชียอยู่ที่ 7,100,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดอาหาร ชาติพันธุ์ (Ethnic Food Market) มีมูลค่าอยู่ที่ 2,990,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ผู้บริโภคกลุ่ม อาหารชาติพันธุ์กว่า 90% เลือกที่จะบริโภคอาหารกลุ่มนี้ที่บ้าน

1. ธุรกิจ eCommerce ต่อยอดสู่ Omni Channels

การเสริมแกร่งทางด้านธุรกิจ eCommerceเพื่ต่อยอดสู่ Omni-channels food retailingครั้งแรกในไทย - พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการส่งออกครอบคลุมทั้งออนไลน์ที่เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซและต่อยอดสู่ Omni-Channels ที่เป็นร้านจำหน่ายสินค้าเอเชีย (Asian Grocery Store) เพื่อเป็นแพลตฟอร์มที่ครอบคลุมในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและกว้างขวาง เพื่อดันยอดขายให้แก่ผลิตภัณฑ์ของ NRF ทั้งยังเสริมศักยภาพการแข่งขันให้แก่สินค้าเอเชียในตลาดยุโรป ทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสให้แก่ผู้ส่งออกไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อย ที่สามารถส่งออกสู่ตลาดยุโรปโดยผ่านคนกลาง ซึ่งเราตั้งเป้าหมายลูกค้าต้องเป็นที่หนึ่ง ผ่านการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ทันสมัย เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้บริโภค ทำให้จุดมุ่งหมายในปีนี้ ของเราเป็นเสมือนจิ๊กซอว์ สำคัญในการพัฒนาและขยายธุรกิจของ NRF โดยกลยุทธ์นี้จะเชื่อมต่อ ให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ใหม่ นั่นคือการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่จะทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ของเอเชียได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในธุรกิจ

ในปี 2023 เราตั้งเป้ารายได้ราว 3-4 พันล้านบาท  โดยแผนการขยายธุรกิจของ NRF เราเล็งเห็นถึงโอกาสในการ พัฒนาในช่องทาง eCommerce และต่อยอดสู่ Omni-Channel โดยการเปิดร้านจำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์จาก เอเชีย (Asian Grocery Store) และมีแผนจะนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเสริมทัพธุรกิจ เพื่อยกระดับประสบการณ์ ของลูกค้า ซึ่ง flagship store สาขานำร่องจะเริ่มในประเทศอังกฤษจำนวน 4 สาขาในปีนี้ และคาดว่าจะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความคืบหน้า ณ ขณะนี้ ทางบริษัทฯ กำลังเจรจา LOI (Letter of intent) กับร้านค้าอยู่ 2 แห่ง ที่มียอดขายรวมอยู่ที่ 36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แดน ปฐมวาณิชย์ กล่าวเสริม

ปัจจุบัน NRF เห็นถึงปัญหาการส่งออกในประเทศ ที่ยังคงมีปัญหาจากการขาดแพลตฟอร์มเพื่อช่วยอุตสาหกรรม ส่งออก เราจึงเล็งเห็นโอกาสที่จะพัฒนาและนำ Big Data มาต่อยอดแผนการตลาด นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่บริษัทฯ จะสามารถพลิกให้เป็นโอกาสในการช่วยผู้ส่งออกและเกษตรกรไทยเราจึงพัฒนา ่องทางออนไลน์ผ่าน                eCommerce ต่อยอดสู่ Omni-Channels อย่างครอบคลุมโดยการสร้าง และการเปิดร้านค้าเพื่อจำหน่าย ผลิตภัณฑ์เอเชีย โดยที่เราเชื่อมั่นว่าภาคอุตสาหกรรมจะร่วมเป็นทางออก  

สำหรับมูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารของไทยในปี 2565 มีมูลค่าอยู่ที่1,553,822 ล้านบาท  และในปี 2566 ตลาดส่งออกมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าราว 10,281,109,608 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 2% นับเป็นโอกาสในการรุกตลาดส่งออกยิ่งขึ้นเพื่อดันรายได้ให้แก่ธุรกิจหลักของ NRF

2. ธุรกิจ Specialty Food

2.1) ันซอสศรีราชาเป็น Product champion การขยายฐานการผลิตโรงงานซอสพริกศรีราชาในสหรัฐ อเมริกา เพื่อเป็น local product ที่มีคุณภาพ ได้สัมผัสรสชาติซอสพริกสูตรดั้งเดิมที่แท้จริง สอดรับกับตลาดซอสพริกที่สหรัฐอเมริกาซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 101,200 ล้านบาท เติบโตกว่า 33% เมื่อเทียบกับปีก่อน และยัมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขยายธุรกิจและผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ นับเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการเป็นผู้นำในฐานะผู้ผลิตซอสระดับสากลและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับ NRF

2.2) ผลิตภัณฑ์ Pet Food ส่งออก 5 ประเทศชั้นนำ อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย อินเดีย และ กลุ่มตะวันออกกลาง อีกทั้งยังมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์เข้าสู่ Modern Trade อีกหลาย ประเทศ สอดรับกับตลาดผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงโปรตีนทางเลือกที่มีส่วนแบ่งการตลาด 23.4% เมื่อเทียบกับ ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงสูตรทั่วไป และในอนาคตผลิตภัณฑ์ อาหารสัตว์เลี้ยงทางเลือก จะมีอัตราความต้องการที่มากขึ้น อย่างต่อเนื่อง

3. ธุรกิจ Climate Action - การขับเคลื่อนบริษัทสู่เป้าหมาย Net Zero

ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารที่มีวิสัยทัศน์ในการใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อน Food Fighting Climate Change ที่ต้องการเปลี่ยนโลกให้ยั่งยืนด้วยธุรกิจ Decarbonization ที่ได้เข้าลงทุนใน frontline technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนขั้นสูงที่ได้รับรางวัล X Prize Award ที่มีเป้าหมายมาจากการความต้องการที่จะแก้ปัญหาและลดผลกระทบจากสภาวะโลกร้อนจากอุตสาหกรรมอาหาร โดยเทคโนโลยีขั้นสูงขนาดย่อมนี้ เรามีแผนตั้งจังหวัดลำพูน ที่นับเป็นต้นน้ำที่สำคัญของบริษัท ซึ่งผลิตภัณฑ์  Bio Carbon มีส่วนช่วยใการพัฒนาดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ส่งเสริมให้การเพาะปลูกมีประสิทธิภาพและสามารถดักจับคาร์บอนในกระบวนการเกษตร อีกทั้งเรายังมีเป้าหมายเพื่อลดการเผาของเกษตรกร และเล็งเห็นโอกาสให้แก่บริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอนาคตอีกด้วย

หลังจากพัฒนาและขยายธุรกิจกว่า 6 ปี วันนี้ NRF ได้สร้างบริษัทฯได้อย่างแข็งแกร่งและเติบโตมาโดยตลอด ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการเป็นผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์ปรุงอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร ที่นับจุดแข็งอยู่ที่รสชาติคู่ครัวไทยส่งออกไปยังครัวโลก และประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ทั้งในและนอกประเทศ โดยในปีนี้ เรามีเป้าหมายสำคัญที่จะรุกตลาดส่งออกมากยิ่งขึ้น เพื่อเสริมแกร่งให้แก่บริษัทยิ่งขึ้น และเรามุ่งมั่นที่จะเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่จะสามารถสร้างโอกาสและเป็นทางออกให้แก่ผู้ประกอบการส่งออกของไทยให้มีประสิทธิภาพ และสร้างประสิทธิผลสูงสุดให้กับอุตสาหกรรมภายในประเทศ

ซึ่ง NRF ยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ และพร้อมที่จะผลักดันคู่ค้า พันธมิตร และบริษัทในเครือ ให้ร่วมพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ ใช้อาหารต่อสู้กับโลกร้อนพร้อมทั้งการพัฒนาและต่อยอดอาหารที่ดี เพื่อทุกคน ทุกเจเนอเรชั่น เพื่อเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ผลิตอาหารชั้นนำบนพื้นฐานด้าน ESG พร้อมขับเคลื่อนบริษัทไปสู่เป้าหมาย Net Zero Emission ภายในปี 2573 เพื่อเสริมศักยภาพด้านการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ