กรุงเทพประกันภัยปรับแผนพลิกฟื้นธุรกิจมุ่งสู่การเติบโตยั่งยืนและแข็งแกร่ง ประกาศแผนปี 66 ตั้งเป้าเบี้ยฯ 30,000 ล้านบาท โต 12.5%

Categories : Update News, Insurance

Public : 03/26/2023

กรุงเทพประกันภัยเผยแผนการดำเนินงานปี 2566 “Year of Resilience towards Sustainable Growth” ปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 30,000 ล้านบาท เติบโต 12.5% เดินหน้าพัฒนาธุรกิจในทุกมิติด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่าง นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้มากกว่าและพิเศษยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 ซึ่งเเม้จะสามารถขยายงานด้านเบี้ยประกันภัยรับรวมได้เกินเป้าหมาย โดยเติบโต 8.8% เมื่อเทีียบกับปี 2564 หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 26,676 ล้านบาท และมีรายได้สุทธิจากการลงทุน 6,254 ล้านบาท เเต่เนื่องด้วยภาระผูกพันในการจ่ายเคลมสินไหมทดเเทนประกันภัยโควิด-19 ที่สิ้นสุดลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ส่งผลทำให้บริษัทฯ ยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 638 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 5.00 บาท รวมทั้งปี 15.50 บาท บนพื้นฐานของการมีความมั่นคงทางการเงิน เเละมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) สูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยมีอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณ 179.4% (ณ 30 ก.ย. 65) พร้อมยืนหยัดความแข็งแกร่งด้วยการรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงหรือ Credit Rating A- (Stable) (ณ พ.ย. 65) โดย Standard & Poor's (S&P) สถาบัน การจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก

สำหรับเเนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยปี 2566 กรุงเทพประกันภัยประเมินว่าภาพรวมธุรกิจจะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีเเนวโน้มจะเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าหลังผ่านพ้นช่วงวิกฤติการเเพร่ระบาดของโควิด-19 เเละกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั่วโลกกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ โดยธุรกิจประกันวินาศภัยจะได้รับประโยชน์จากยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในปี 2566 ที่คาดว่าจะเติบโตเป็นบวกต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เเละการขยายตัวของประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติเเละชาวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงยังมีนโยบายจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในอัตรา 150-300 บาทต่อคน ซึ่งคาดว่าค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งจะนำมาเป็นเบี้ยประกันภัยสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ด้านตลาดการรับประกันภัยต่อ ยังคงมีการปรับอัตราเบี้ยประกันภัยขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนเเรงและมีความถี่สูงขึ้นจากปัญหา Climate Change ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ต้นทุนการชดใช้ค่าสินไหมทดเเทนเพิ่มสูงขึ้น บริษัทประกันภัยจึงมีโอกาสได้รับเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันการเเข่งขันด้านราคามีเเนวโน้มลดลง โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ ภายหลังจากที่บริษัทประกันภัยหลายแห่งต้องถูกปิดกิจการเเละประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักในปีที่ผ่านมา ผนวกกับการเตรียมรับมือกับอัตราค่าสินไหมทดเเทนของประกันภัยรถยนต์ที่มีเเนวโน้มจะเริ่มกลับมาสูงขึ้น เมื่อการเดินทางเเละการใช้ชีวิตของผู้คนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยที่สนับสนุนข้างต้น สมาคมประกันวินาศภัยไทยประเมินว่า ธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2566 คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงขยายตัวอยู่ในช่วง 4.5 - 5.0% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ท่ามกลางปัจจัยที่ท้าทายหลายประการ เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับเพิ่มขึ้น เเละอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ที่อาจได้รับผลกระทบจากการยกเลิกผ่อนปรนมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย เเละราคาบ้านอยู่อาศัยที่ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณเบี้ยประกันอัคคีภัย เช่นเดียวกับประกันภัยทางทะเลเเละขนส่งที่ย่อมได้รับผลกระทบจากการส่งออกของประเทศที่หดตัวลงตามการชะลอของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ประกันภัยสุขภาพ เเม้จะได้รับผลบวกจากการที่ผู้บริโภคตระหนักถึงความเสี่ยงด้านการเจ็บป่วยเเละภาระค่ารักษาพยาบาลมากขึ้น เเต่บริษัทประกันภัยมีเเนวโน้มจะเพิ่มความระมัดระวังในการขยายงานประเภทนี้มากขึ้น ภายหลังเริ่มบังคับใช้มาตรฐานใหม่ของการประกันภัยสุขภาพ ส่งผลให้ความเสี่ยงของบริษัทประกันภัยในการรับประกันจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

Year of Resilience towards Sustainable Growth ปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

"แม้เศรษฐกิจโลกจะยังมีความเปราะบาง แต่ก็ได้ผ่านพ้นแรงกระแทกใหญ่ๆ ไปแล้ว จึงกลายเป็นความท้าทายที่มาพร้อมกับโอกาส เปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการพลิกฟื้นประสิทธิภาพสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปีนี้ถือเป็น Year of Resilience ที่องค์กรจะสะท้อนกลับไปสู่เป้าหมายที่ไกลกว่า บริษัทฯ พร้อมที่จะกลับไปสู่จุดที่แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งกว่าเดิม ผ่านการเรียนรู้จากวิกฤติเพื่อให้เกิดการพัฒนาและปรับตัวให้ดียิ่งขึ้น โดยยึดหลักสร้าง “ดุลยภาพ” ในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ (ESG) โดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล ส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น พร้อมมุ่งทำประโยชน์เพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2566 นี้ กรุงเทพประกันภัยตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เติบโต 12.5% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประมาณ 13,096 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือ Non-Motor ประมาณ 16,904 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างและความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับการบริการให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น" ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว