โนเบิล โชว์งบไตรมาส 1/66 กำไรแตะ 73 ล้านบาท พุ่ง 1,195%

Categories : Stock Market

Public : 05/12/2023

โนเบิล โชว์งบไตรมาส 1/66 กำไรแตะ 73 ล้านบาท พุ่ง 1,195%YoYอดขาย Pre-Sale แตะ 4,402 ล้านบาท - ลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มสูงขึ้น

บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรื NOBLE ประกาศลงานไมาสแรกของปี2566 รับรู้รายได้รว 2,135 ล้านบาเติบโต 43% YoY และกำรสุทธิแตะ 73 ล้านบาท พุ่ง 1,195% YoY ขณะที่ยอดขายแตะ 4,402 ล้านบาท หนุน Backlog ในมือเพิเป็น 22,396 ล้านบาทรับอานิสงส์ความมั่นใจฟื้น-ต่างชาติกลับมาประกาศตอกย้ำรายได้รวมปีนี้ส่อแววแตะ15,000 ล้านบาท และยอดขายตะ 23,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บิษัท โนเบิล                  ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)“NOBLE” ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยในทำเลชั้นนำของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เปิดเผยว่า บริษัท ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2566 จากภาพรวมของความมั่นใจที่ฟื้นตัวกลับมา หลังจกสถานกาณ์ของโรคระบาดคลี่คลาย โดยบริษัทฯ                   มีรายได้รวมที่ 2,135 ล้านบาท เติบโต 43% YoY และกำไรสุทธิอยู่ที่ 73 ล้านบาท เติบโต 1,195%YoY สาเหตุหลักมาจากมีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จต่อเนื่องจากไตรมาส 4/2565 ที่มากขึ้น เช่น รงการโนเบิล สเตท สุขุมวิท 39 โครงการนิว ศรีนครินทร์–ลาซาล โครงการโนเบล อราวน์ อารีย์ โครงการนิว งามวงศ์วาน และโครงการนิว เซ็นเตอร์ บางนา เป็นต้น รวมถึงมีรายได้จากการให้บริการและบริหารงานก่อสร้างและมียได้อื่นจากการยกเลิกสัญญาและรายได้จากการบริหารโครงการ (Management Fee) ที่เพิ่มมากขึ้นจากโครงการร่วมทุน

โดยในช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัทฯมีดขายรวม (Pre-sale) แตะ 4,402 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากสินค้าพร้อมขาย (Inventory) จำนวน 1,060 ล้านบาท และเป็นยอดขายจากสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและโครงการใหม่จำนวน 3,342 ล้านบาท สอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมา ส่งผลดีต่Sentiment ทั้งลูกค้าในกลุ่มที่เป็นซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real demand) และลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน

ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาส 1/2566 บริษัด้เปิดตัวโครงการใหม่ไปแล้วจำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,800 ล้านบาทประกอบด้วย 1.โครงการอร์ คูคต สเตชันมูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise 8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ลำลูกกาและติดสถานีรฟฟ้า และ2.โครงการนิว ไฮบ์ สุขสวัสดิ์ มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ รวมจำนวนยูนิต 156 ยูนิต ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากรูปแบบโครงการรวมถึงำเลที่ตั้งสามารถดึงดให้ลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 ในมือรวมมูลค่า 22,396 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยรับรู้ภายใน 2-3 ปี

ั้งนี้สำหรับในปี 2566 บริษัท เชื่อว่า Sentiment จะยังคงฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากที่บริษัท ได้มีการปรับพอร์ตกระจายฐานูกค้าต่างชาติให้มีความหลากหลามากขึ้น เช่น ใต้หวัน สิงคโปร์ และเมียร์มาร์ เป็นต้นพื่อรองรับการเปิดประเทศโดยเฉพาะปัจจัยการเปิดประเทศของจีนทำให้ความต้องการจากลูกค้าชาวจีนเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้กลับมาคึกคักสู่ภาวะปกติและนักท่อเที่ยวจีนเริ่มทยอยเข้ามาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่ลบวกต่อาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยตรงทำให้ยอดขายของลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มสูึ้เช่น โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูง ติดเซ็นทรัลพระรามเก้า และ MRT เพียง 180 เมตร เชื่อมทุกไลฟ์สไตล์ ใจกลาง New CBD คอนโด คุณภาพซึ่งปัจจุบันครงการมียอดขายแล้วกว่า 81% และมีสัดส่วนยอดขายจากลูกค้าต่างชาติแล้วกว่า38%

              นายธงชัย กล่าวเพิมเติมว่า จากการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ ประกอบกับ Backlog ที่มีในมือ รวมถึงโครงการแนวราบที่จะทยอยปิดตัวในปี 2566 ส่งผลให้บริษัทฯ เชื่อว่าจะส่งผลบวกต่อทิศทางการ ดำเนินงานในปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเห็นการเติบโตของรายได้รวมที่ระดับ 15,000 ล้านบาท และยอดขายที่ระดับ 23,000 ล้านบาทตามป้าที่วางไว้