ตลท.ดีเดย์ใช้เกณฑ์”มาร์เก็ตแคป “รับหุ้น 10กลุ่มอุตสาหกรรมตาม BGC Model 6 มิ.ย นี้

Categories : Update News, Stock Market

Public : 06/02/2023

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงเกณฑ์รับหุ้นสามัญเพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการประกอบธุรกิจภายใต้ BCG Model มีผล 6 มิ.ย. 66 10 อุตสาหกรรม ใช้เกณฑ์มาร์เก็ตแคป เข้าSET 7,500ล้าน mai 2,000 ล้าน รายได้โต3ปี เฉลี่ยโตเกิน 20%

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เพื่อสนับสนุนการเข้า         จดทะเบียนของบริษัทที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการประกอบธุรกิจภายใต้โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (BCG Model) โดยขยายให้ครอบคลุมถึงบริษัทขนาดกลาง และบริษัทต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโต ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2566

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ                  ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญเพื่อสนับสนุนการเข้าจดทะเบียนของบริษัทที่ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับ BCG Model เพื่อให้สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ โดยขยายให้ครอบคลุมถึงบริษัทไทยขนาดกลาง และบริษัทต่างประเทศขนาดใหญ่ที่มีการสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย ไม่จำกัดเฉพาะบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)เท่านั้น โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำหนด ได้แก่ การเกษตรและอาหารขั้นสูง เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภา การต่อยอดทางการแพทย์และสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ยานยนต์สมัยใหม่ การบินและโลจิสติกส์ ดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถเข้าจดทะเบียนในSET และ mai ด้วยเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (Market Capitalization Test) เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งระดมทุนในตลาดทุนของบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต นำไปสู่การขยายตัวของเศรษฐกิจ  

การปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมี Market Capitalization ไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านบาทสำหรับ SET หรือ 2,000 ล้านบาทสำหรับ maiและมีคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่กำหนด สามารถยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai ได้ โดยมีการกำหนดเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะกำหนดแนวทางในการพิจารณากลั่นกรองบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำหนดเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจรับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน2566 เป็นต้นไป

ผู้ประกอบการและผู้สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th เลือกหัวข้อ “กฎเกณฑ์/การกำกับ” “เกณฑ์ที่เกี่ยวกับบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์” และ “Simplified Regulations”