STARK ประกาศงบปี 65 ขาดทุน!!6,651 ล้านบาท ขณะที่งบปี 64 พลิกจากที่เคยแจ้งมีกำไร กลับเป็นขาดทุน 5965 ล้าน !! ชี้พบข้อผิดพลาดหลายประการในงบการเงินปี 2564 ฉุดส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ 4,404 ล้านบาท
นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ได้รายงานผลการดำเนินงานปี 2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์ โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการจำนวน 25,213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 6,158 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.31% จากปี 2564 และมีรายได้รวมจำนวน 25,725 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,609 ล้านบาท หรือ 34.57% เปรียบเทียบกับปี 2564
แม้รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่มีผลขาดทุน 6,651 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่มขึ้น 11.04% เมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายและผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 3,473 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลขาดทุนสุทธิประจำปี 2564 ของกลุ่มบริษัทฯ จะแตกต่างจากผลกำไรสุทธิจากงบการเงินประจำปี 2564 ฉบับลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ที่เคยแสดงกำไร 2,783 ล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 5,965 ล้านบาท
เนื่องจากทางกลุ่มบริษัทต้องดำเนินการปรับปรุงรายการทางบัญชีเพื่อแก้ไขความผิดพลาดของการบันทึกบัญชีที่เกิดขึ้นในปี 2564 ที่ผ่านมา
นายวนรัชต์ ระบะวุว่า ในการจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 ผู้บริหารชุดใหม่ของบริษัทตรวจพบข้อผิดพลาดหลายประการในงบการเงินปี 2564 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2565 ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายบัญชีในงบการเงินและเป็นจำนวนเงินที่เป็นสาระสำคัญ
รวมถึงรายได้จาการขายและต้นทุนขาย รายได้จากการให้บริการและต้นทุนให้บริการ สินค้าคงเหลือ ลูกหนี้และค่าเผื่อขาดทุนด้านเครดิต และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
รายการดังกล่าวข้างต้นถือเป็นรายการที่ผิดปกติ และทำให้ผู้บริหารของบริษัท ทำการปรับตัวเลขเปรียบเทียบย้อนหลังสำหรับปี 2564 สำหรับงบการเงินรวมที่จะออกสำหรับปี 2565ให้ถูกต้องตามข้อมูลที่มี ณ ปัจจุบัน
โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีหนี้สินหมุนเวียนรวม สูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนรวม จำนวน 6,628 ล้านบาท และมีส่วนของเจ้าของติดลบ จำนวน 4,404 ล้านบาท โดยหนี้สินหมุนเวียนส่วนใหญ่ เป็นเจ้าหนี้การค้า เงินกู้ยืมระยะสั้น เงินกู้ยืมระยะยาวและหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี
กลุ่มบริษัทฯตระหนักถึงผลกระทบอย่างรุนแรงจากข้อมูลความจริงที่ถูกเปิดเผย และนำเสนอในงบการเงินนี้ ต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ถือหุ้นกู้ เจ้าหนี้ และผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัทฯ คณะกรรมการและคณะผู้บริหารชุดใหม่ของกลุ่มบริษัทฯ กำลังเร่งดำเนินการร่วมกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินอย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางแก้ปัญหาให้กลุ่มบริษัทฯ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องต่อไป
รวมทั้งกำลังเร่งแก้ไขสาเหตุหลักของปัญหาที่ทำให้กลุ่มบริษัทฯประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก ทั้งการปรับปรุงการบริหารความเสี่ยง และการควบคุมภายใน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำขึ้นมาอีก
