PTG ลุยธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หลังบริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัลแอสเซท คว้า2 ใบอนุญาต จาก กลต แล้ว!

Categories : Update News, Stock Market

Public : 06/21/2023
 

PTG ลุยธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล หลังบริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัลแอสเซท คว้า2 ใบอนุญาต จาก กลต แล้ว! เดินหน้าเปิดแพลตฟอร์มซื้อขาย ไตรมาส4 ตั้งเป้าปีแรก ขึ้นแท่นอันดับ2 ศูนย์ซื้อขาย ดึงฐานลูกค้าแม็กซ์การ์ด 1.5 แสนคนรุ่นใหม่เข้ามา ด้านPTG หวังเชื่อมสู่โลกเสมือนจริง

นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต)ได้อนุมัติให้ ออกใบอนุญาต ประกอบธุรกิจดิจิทัลให้กับ บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (Maxbit) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ PTGเข้าไปลงทุนถือหุ้นสัดส่วน 35% แล้ว ซึ่งการเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล จะเป็นสะพานเชื่อมนำPTG เข้าสู่การทำธุรกิจในโลกเสมือนจริง ซึ่งเป็นการทำธุรกิจในยัคที่เกี่ยวเนื่องกับคนรุ่นใหม่ ๆจากการทำธุรกิจในปัจจุบัน

และอนาคตการที่PTGมีธุรกิจที่จะสามารถนำมาต่อยอด หรือ หาวิธีเข้าถึงทุนในรูปแบบใหม่ก็จะเกิดขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจที่เป็นกรีนเช่นโรงไฟฟ้าขยะ สถานีบริการน้ำมัน สามารถนำมาออกในรูปแบบ ที่เป็นคาร์บอนเครดิตได้ ซึ่งเป็นเรื่องในอนาคตที่จะเกิดขึ้น เมื่อการเข้าสู่ธุรกิจดิจิทัล ที่มีความพร้อมและทำธุรกิจแล้วเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้จะการเข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลจะสามารถสร้างระบบนิเวศน์ในการทำธุรกิจของกลุ่มPTGให้เชื่อมต่อกัน และสามารถให้บริการลูกค้าได้ครบสมบูรณ์ และเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย เพื่อคนไทย#อยู่ดีมีสุข

 

ด้าน นายปกเขต รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท (Maxbit) กล่าวว่า หลังได้รับในอนุญาต ช่วง 3 เดือนข้างหน้าบริษัทจะดำเนินกานทุกอย่างตามขั้นตอนและกติกาของ กลต. ในระบบทุกๆด้าน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินธุกิจได้ช่วงต้นไตรมาส4 ปี2566 หรืออย่างเร็วคือเดือนต.ค 2566

สำหรับใบอนุญาต 2ใบที่ได้รับคือ ใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Broker) ซึ่งจะเป็นตัวกลางในการซื้อขาย โดยบริษัทจะพัฒนาแพลตฟอร์ม ในการซื้อขายขึ้นมาเอง ซึ่งมีจุดเด่นคือ การที่ลูกค้าสามารถ DCAได้ ซึ่งน่าจะเหมาะกับการลงทุนในดิจิทัลแอสเสท ที่มีความผันผวน และใบอนุญาต และ ใบอนุญาต คริปโท เคอร์เรนซี่

นายปกเขต กล่าวว่า ในส่วนของเป้าหมายในการทำธุรกิจนั้นคาดหวังว่า ภายในระยะเวลาที่ได้เริ่มทำธุรกิจ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% ของมูลค่าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบันที่ต่อเดือนอยู่ 4.5 หมื่นล้าน และตั้งเป้าขึ้นแท่นอันดับ2 เป็นรองแค่เจ้าใหญ่ในปัจจุบัน

สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ แมกซ์บิท คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่เบื้องต้นแชร์ฐานลูกค้าจากฐานบัตร แมกซ์การ์ด ประมาณ 1.5 แสนราย จากฐานบัตรทั้งสิ้น 18 ล้านราย จะเน้นกรุงเทพ และปริมณฑล นอกจากนี้จะเชื่อมฟังชั่นให้ทำธุรกิจในกลุ่ม เช่น หากลูกค้าเทรดผ่านแพลตฟอร์ม จะได้รับคะแนน เข้าสู่แมกซ์การ์ด และลูกค้าสามารถนำเหรียญไปใช้ ในสินค้าและบริการของ PTG เช่นร้านกาแฟพันธุ์ไทยเป็นต้น

นายปกเขต กล่าวว่า ในแง่ของการทำระบบ ขอให้เชื่อมั่นว่า เราจะทำทุกอย่างเกินมาตรฐานที่ กลต กำหนด เพราะธุรกิจนี้ อยู่ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้า ดังนั้นจะให้มีปัญหาไม่ได้อีกทั้งในแง่ของทุนและความพร้อมด้านทีมงานเราพร้อม โดยขณะนี้มีพนักงาน 40 คน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 120 ล้านบาท