AWSเท็กโอเวอร์TITELหวังบุกอสังหาภูเก็ตเป้า3ปีรายได้หมื่นล้าน

Categories : Update News, Stock Market

Public : 07/12/2023

ASW เดินหน้าปั้นรายได้หวัง3ปีแตะหมื่นล้านบาท  ทุ่มเงินเท็กโอเวอร์  ‘TITLE’ ขยายตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตเต็มสูบ ขยายฐานตลาดสู่หัวเมืองหลักท่องเที่ยว

นายกรมเชษฐ์  วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW)บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์เปิดเผยว่าASW  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติ เข้าซื้อหุ้น บริษัท ร่มโพธิ์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ตเบื้องต้นจะเข้าถือหุ้น 57%โดยใช้เงินประมาณ 1024 ล้านบาท หรือเข้าซื้อหุ้นราคา 2.50บาท ซื้อจำนวน 417.16 ล้านหุ้น และหลังเข้าซื้อแล้วจะประกาศ ซื้อหุ้นทั้งหมด (เทนเดอน์ออฟเฟอร์) ต่อไป 

 ทั้งนี้เพื่อขยายฐานธุรกิจและฐานตลาดของบริษัท ไปในทำเลที่มีศักยภาพสูง และมีความหลากหลายซึ่งจะเป็นการผลักดันรายได้ของ ASW ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและบริษัทมเป้าหมาย ภายใน3ปีนี้รายได้แตะ 1หมื่นล้านบาท 

สำหรับ  TITLE เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ในจังหวัดภูเก็ตที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปี พัฒนาอสังหาฯ ประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้แบรนด์ The Title ซึ่งแต่ละโครงการล้วนตั้งอยู่ในทำเลที่ดีอย่าง หาดในยาง, หาดราไวย์ และหาดบางเทา และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าสามารถปิดการขายแล้วเกือบทุกโครงการ ซึ่งในปัจจุบัน โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา อาทิโครงการ THE TITLE V RAWAI ซึ่งปิดการขายแล้ว 100% สามารถทยอยโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วกว่า89% และโครงการ THE TITLE HALO 1NAIYANG เปิดการขายเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมาณ ไตรมาส 2/2566 มียอดขายแล้วกว่า 79% จาก 329 ยูนิต ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 1 ปี 2567 และหากพิจารณาทางด้านการเงินพบว่าTITLE มีสถานทางการเงิน และพื้นฐานธุรกิจที่ดี แม้ในช่วงโควิดที่ผ่านมา TITLE ก็ยังสามารถส่งมอบห้องชุดกับลูกค้าได้ตามสัญญา รวมถึงมีหนี้สินต่อทุนในระดับที่ต่ำจึงยังมีโอกาสเติบโต และขยายธุรกิจได้อีกมาก

นอกจากนั้นแล้ว การเข้าซื้อหุ้น TITLE จะช่วยให้ ASW สามารถต่อยอด และยายเข้าสู่ธุรกิจคอนโดในตลาดภูเก็ตได้ทันที เนื่องจาก TITLE มีที่ดินรอการพัฒนาอีกกว่า 80 ไร่ ในทำเลศักยภาพอย่าง หาดในยาง, หาดราไวย์ และหาดบางเทา ที่สามารถพัฒนาโครงการในอนาคตได้ถึ 9 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 14,000 ล้านบาท และการเข้าลงทุนดังกล่าว บริษัทฯ ยังได้ฐานลูกค้าและเครือข่ายเอเจ้นท์ (Agent) ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงทีมผู้บริหารและพนักงานที่เข้าใจการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติ พร้อมที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพในระดับสากลต่อไป

เรามองเห็นศักยภาพ ประสบการณ์ และความสามารถของทีมผู้บริหาร และศักยภาพที่ดินในจังหวัดภูเก็ตของ TITLE รวมทั้งมุมมองในการทำธุรกิจของทั้ง ASW และ TITLE ที่มี DNA ที่คล้ายกัน ทั้งด้านการให้ความสำคัญกับ Facilities และฟังก์ชันในการอยู่อาศัย รวมถึงแผนการพัฒนาภาพใหญ่ของจังหวัดภูเก็ตเอง ซึ่งการ Synergy กันในครั้งนี้ จะช่วยให้ ASW ต่อยอดธุรกิจไปสู่กลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยวได้ในอนาคต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าว

นายกรมเชษฐ์   กล่าวต่อว่า ปัจจุบันตลาดท่องเที่ยวของภูเก็ตฟื้นตัวถึงกว่าร้อยละ 80เทียบกับช่วงก่อนโควิด และทางสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต ได้วางกลยุทธ์ในการส่งเสริมการทำการตลาดท่องเที่ยวของภูเก็ตไว้ 5 ด้านด้วยกัน คือ กลยุทธ์รักษาตลาดเป้าหมายเดิมไว้ เช่น ตลาดจีน รัสเซีย อินเดีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่มาภูเก็ตอยู่แล้ว ด้วยการออกไปทำตลาดส่งเสริมการขาย การออกไปทำโรดโชว์ในประเทศที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก รวมถึงการเจาะตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลางในบางประเทศ โดยภาคเอกชนมองว่า การท่องเที่ยวของภูเก็ตจะกลับมาฟื้นตัว 100% อย่างแน่นอนในปี 2567 ที่จะถึงนี้ ย่อมส่งผลดีต่อตลาดอสังหาฯ ของภูเก็ต โดยบริษัทฯ ได้ตั้งเป้ารายได้ของ TITLE ไว้ที่ 10,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี (2567-2569)

   ASW ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 50 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 55,300 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 37 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 13 โครงการ ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 11,400 ล้านบาท