วอนFacebookยุติโฆษณามิจฉาชีพหลอกลงทุน สภาผู้บริโภคฮึ่มหากละเลยเจอโทษคุก 5 ปี
Categories : Update News, Stock Market
Public : 07/17/2023ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ กูรูนักวิเคราะห์หุ้นคนดังวอนFacebookกลั่นกรองให้ดีก่อนปล่อยโฆษณาชักชวนประชาชนลงทุน เพราะโดนมิจฉาชีพสวมรอยให้โอนเงินลงทุนอย่างคึกโครม เสียหายแพร่หลายทุกวัน เผยเฉพาะวันนี้แค่วันเดียวแอบอ้างเป็นเจ้าสัวคนดังบริษัทมหาชน45ราย สภาองค์กรผู้บริโภคจ่อดำเนินคดีFacebookคุก5ปี ฐานปล่อยปละละเลยให้18มงกุฎใช้เป็นช่องทางลวงประชาชน
ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่าปัญหามิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบุคคล หน่วยงานที่มีชื่อเสียงโฆษณาผ่านFacebookชักชวนให้ประชาชนโอนเงินลงทุนหุ้น คริปโต ทองคำ ยังเป็นไปอย่างแพร่หลาย แม้ได้พยายามตักเตือนแล้ว ทำให้มีประชาชนและผู้ลงทุนเสียหายในวงกว้าง จึงต้องการเรียกร้องให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ผู้กระทำผิดมีโทษจำคุก 5 ปี และหากFacebookที่รับเงินค่าโฆษณาปล่อยปละละเลยรู้เห็นเป็นใจด้วย ก็อาจมีโทษทางกฎหมายเท่ากัน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ได้ให้ความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงข่าวเตือนมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ หลังจากมีผู้เสียหายถูกหลอกลวงให้โอนเงินจำนวน6ล้านบาท แต่คล้อยหลังเพียงไม่กี่วัน ก็มีผู้เสียหายอีก5ล้านบาท และมีมาทุกวัน วันหละหลักหมื่นไปถึงหลักล้านบาท แม้ได้ให้ความร่วมมมือกับตำรวจแถลงข่าวป้องปรามแล้ว เช่นเดียวกับบริษัทอมตะคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ที่ส่งผู้บริหารระดับสูงไปร่วมแถลงข่าวป้องปรามกับตำรวจไซเบอร์ และให้รางวัลนำจับ1ล้านบาท แต่ก็ยังมีการโฆษณาหลอกลวงโดยอ้างชื่อและรูปของผู้บริหารอมตะทางFacebook และมีผู้หลงเชื่่อเสียหายทุกวัน

เฉพาะวันนี้(17ก.ค.)วันเดียวมีโฆษณาแอบอ้างเป็นบุคคลและหน่วยงานต่่างๆในแวดวงเศรษฐกิจจำนวน 45 รายการโฆษณา รวมไปถึงส่งทางกล่องข้อความ นอกจากตนแล้วก็มีบุคคลต่างๆเช่น นายวิกรม กรมดิษฐ์ นายธนินท์ เจียรวนนท์ นายสารัตช์ รัตนาวดี นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร รวมทั้งแอบอ้างเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทมหาชนต่างๆเช่น ปตท. CPALL AMATA OR TOP BANPU DBS ห้างทองออโรร่า ห้างทองออลสิริส เป็นต้น โดยรายการโฆษณาทั้งหมดผ่านFcebookมีประชาชนคลิกเข้าชมและขอรายละเอียดจำนวนมาก และนำไปสู่การหลอกลวงให้โอนเงินลงทุนและฉ้อโกงเงินไปมหาศาล
ทั้งนี้เวลานี้ตลาดหุ้นไทยก็ตกต่ำ นักลงทุนเสียหายเป็นวงกว้างจากหุ้นหลายๆตัว รวมทั้งการทุจริตฉ้อโกงกรณีหุ้นSTARKมากพออยู่แล้ว ยังมีการหลอกลวงของบรรดามิจฉาชีพอีกอย่า่งแพร่หลาย ไม่เคยมีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเลยซักรายไปถึงคุก ส่วนFacebookก็ไม่แน่ใจว่ามีการกลั่่นกรองเพียงใดก่อนจะปล่อยให้มีการโฆษณาหลอกลวงประชาชน จึงขอเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด เพราะลำพังการตักเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อนั้นพบว่าไม่เพียงพอต่อการหยุดยั้งอาชญากรรมทางเศราฐกิจได้ และFacebook หรือสื่อโซเชียลมีรเดียเองก็ต้องกลั่นกรองให้ดี ไม่คสรเห็นแก่รายได้จากเงินค่าโฆษณาเพียงอย่างเดียว เพราะเท่ากับเป็นการส่งเสริมให้เกิดอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
"ขนาดผมไปแถลงข่าวกับตำรวจเตือนแล้ว ลงประชาสัมพันธ์เตือนแล้ว ก็ยังมีเหยื่อหลงเชื่อนโดนหลอกลวงเสียหายทุกวัน ที่สำคัญคนพวกนี้ก็เข้าใจผิดว่าผมไปหลอกลวงให้เขาโอนเงินลงทุนแล้วโกงเขาด้วย ทางผู้โดนแอบอ้างทุกท่านก็เจอผลกระทบแบบเดียวกัน ได้ช่วยกันเตือนแล้ว ไปแถลงข่าวกับตำรวจเตือนแล้วก็แล้ว แต่ยังหลอกลวงกันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางFacebookจึงต้องกลั่นกรองดีๆเลิกรับเงินโฆษณาลงโฆษณาให้มิจฉาชีพได้แล้ว ทางตำรวจก็ต้องจับมิจฉาชีพพวกนี้จำคุกให้เข็ดหลาบเป็นตัวอย่างได้แล้ว จึงจะตัดวงจรการหลอกลวงลงได้" ดร.ณัฐวุฒิ กล่าว
นายโสภณ หนูรัตน์ สภาองค์กรผู้บริโภค เปิดเผยว่าได้ประสานงานกับทางFacebookแล้ว ให้จัดการแก้ไขปัญหามิจฉาชีพแฝงตัวมาโฆษณาแอบอ้างเป็นผู้อื่นหลอกลวงการลงทุน แต่ยังไม่มีการแก้ไขปัญหา นอกจากจะให้ผู้ใช้Facebookกดแจ้งรายงาน หรือreport จากนั้นทางFacebookก็จะยกเลิกการมองเห็นโฆษณาเหล่านี้เฉพาะของผู้กดรายงานเท่านั้น โดยที่ประชาชนทั่วไปก็ยังสามารถเห็นโฆษณาตามปกติ ไม่มีการลบ หรือยกเลิกโฆษณาแต่อย่างใด ดังนั้นทางสภาองค์กรผู้บริโภค จึงจะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อFacebookเพื่อให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อไป
ทั้งนี้พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 กำหนดไว้ว่า ผู้ใดกระทำผิดโดยทุจริตหรือหลอกลวง บิดเบือนหรือปลอมข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนุ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา15 กำหนดว่า ผู้ให้บริการผู้ใดให้ความร่วมมิอ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา 14ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตนต้องระวางโทษเช่นเดียวกันกับผู้กระทำผิดมาตรา14http://sql.ldd.go.th/intraaccount/Information_Law/File/Law-10.pdf
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของFacebook Thailandกล่าวว่าไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องนี้ ได้ใช้ระบบกลั่นกรองการโฆษณาที่ขัดมาตรฐานของFacebookอยู่ แต่เนื่องจากมิจฉาชีพได้ใช้รูปใบหน้าบุคคลประกอบการโฆษณา ทำให้ผ่านระบบกลั่นกรองมาได้ ตอนนี้Facebook Thailandกำลังใช้มาตรการเชิงรุกแบบpro actionในการพยายามหยุดยั้งการโฆษณาหลอกลวงให้โอนเงินลงทุนอยู่ รวมทั้งมาตรการอื่นๆ