อเบอร์ดีน ฉายภาพการลงทุนไทย-เทศ แนะเก็บหุ้นไทย คาดเงินไหลกลับหลังตั้งรัฐบาล

Categories : Update News, Wealth

Public : 08/04/2023
 

บลจ.อเบอร์ดีน จัดสัมมนา 2H2023 Global Economic Outlook “Recession, Interrupted” เผยมุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทย พร้อมแนะโอกาสสะสมหุ้นไทยราคาต่ำกว่ามูลค่าหวังการเมืองชัดเจนหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ สร้างความเชื่อมั่นและผลักดันเศรษฐกิจโตต่อเนื่อง คาดกรอบดัชนีปีนี้ 1,450 – 1,630 จุด

นายโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.อเบอร์ดีน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลังอาจจะมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง จากความกดดันเรื่องอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เศรษฐกิจจีนน่าจะกลับมาเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายหลังจากการเปิดประเทศ แนะลงทุน กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดีวิเด็น ฟันด์ (ABGDD) มุ่งเน้นการลงทุนหุ้นปันผลเด่นทั่วโลก โดยเป็นการลงทุนในระยะยาวในหุ้นคุณภาพที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ พร้อมกับโอกาสการเติบโตของราคาหุ้นในอนาคต

ด้านนายพงค์ธาริน ทรัพยานนท์ Head of Fixed income and Asset Allocation แนะลงทุนในตลาดหุ้นจีนที่มีโอกาสเติบโตได้ดี ท่ามกลางความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป เพราะเชื่อมั่นว่าจีนจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และเอื้อต่อการเติบโตของเศรษฐกิจหลังการปลดล็อกเปิดประเทศ โดยแนะกองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า A Share ซัสเทนเน

เบิล เอคควิตี้ ฟันด์ (ABCA) เน้นลงทุนอย่างยั่งยืนในหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างเพื่อเฟ้นหุ้นคุณภาพ และตอบโจทย์เทรน ESG โดยโฟกัสลงทุน 5 ธีมหลักในกลุ่มการบริโภคในประเทศ เทคโนโลยี พลังงานสะอาดการบริหารสินทรัพย์และความมั่งคั่งและเฮลท์แคร์ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตเศรษฐกิจจีน และนโยบายสนับสนุนของภาครัฐ

ขณะที่นางสาวดรุณรัตน์ ภิยโยดิลกชัย Head of Equities กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนในประเทศครึ่งปีหลังว่าธุรกิจท่องเที่ยวและความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นโดยเห็นว่าพรรคการเมืองแกนนำมีนโยบายผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตไม่ต่ำกว่า 5% นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มมีเม็ดเงินจากต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนโดยปีที่ผ่านมามีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติเข้ามาปีละ 2 แสนล้านบาทแต่ในช่วงครึ่งปีแรกต่างชาติขายหุ้นไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท

ส่วนภาคการท่องเที่ยวจะเป็นแรงหนุนเศรษฐกิจจากการคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวราว 30 ล้านคนต่อปีโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งหากมีการปลอดล็อกข้อจำกัดของกรุ๊ปทัวร์น่าจะหนุนให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จึงมองกลุ่มโรงแรม กลุ่มค้าปลีก ร้านอาหารและโรงพยาบาลเป็นกลุ่มที่น่าสนใจและมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้