14โบรกมองหุ้นPTG แนวโน้มเด่นครึ่งปีหลังให้ราคาสูงสุด 18บาท

Categories : Update News, Stock Market

Public : 09/19/2023

14โบรกฯ ใน IAA  แนะนำซื้อ7แนะถือ7 หุ้น PTG ให้ราคาเป้าหมายสูงสุด 18 บาท คาดปีนี้กำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท และปีหน้า1.3พันล้านบาทท ยังเป็นหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลสูงกว่าฝากเงิน เฉลี่ยที่ 2.97%  ปีหน้า 3.63%

ภายหลัง บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) ประกาศผลดำเนินงานงวดครึ่งแรกปี 2566 บริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์) 14 แห่ง ได้จัดทำบทวิเคราะห์ภายใต้ผลสำรวจนักวิเคราะห์ By IAA (สมาคมวิเคราะห์ลงทุน) ได้ออกคำแนะ โดยในจำนวน 7 โบรกเกอร์ให้คำแนะนำซื้อ และ7โบรกเกอร์ให้ ถือ และให้ราคาเป้าหมาย สิ้นปี 2566สูงสุดที่ 18 บาท และมีราคาเฉลี่ย ที่ 12.49บาท และให้ราคาต่ำสุด ที่ 10.50บาท

พร้อมทั้งคาดว่า ปีนี้จะมีกำไรสุทธิ 1,041.53ล้านบาท และปีหน้ากำไร 1375.36ล้านบาท เทรดบนพี/อี 16.33เท่าปีนี้และปีหน้าที่ พี/อี12.59เท่า และยังคงเป็นหุ้นที่มีอัตราเงินปันผล ในระดับ 2.97%ปีนี้และปีหน้าที่ 3.63%

มองนโยบายลดค่าพลังรัฐบาลกระทบจำกัด เพราะไม่แทรกแซงค่าการตลาดและลดภาษี กำไรปกติฟื้นเด่น โดยบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า PTGได้รับผลกระทบจำกัด จากนโยบายลดราคาน้ำมัน ในเบื้องต้นคาดนโยบายดังกล่าวจะไม่มีการแทรกแซงค่าการตลาดน้ำมันดีเซล ในปัจจุบันซึ่งอยู่ในระดับ 1.90-2.00 บาท/ลิตร (อิง EPPO) แต่จะใช้การลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลแทน (แบบเดียวกับช่วง ก.พ. 2565 –ก.ค. 2566) ปัจจุบันภาครัฐมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ระดับ ต่ำกว่า 32 บาท/ลิตร และมีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลที่ราว 5.99 บาท/ลิตร

เราจึงมองว่าการที่ภาครัฐจะไม่แทรกแซงค่าการตลาดน้ำมันจะทำให้ค่าการตลาดน้ำมันสามารถฟื้นตัวได้ต่อเนื่องและหนุนการฟื้นตัวของกำไรในช่วงที่เหลือของปี

กำไรปกติ 3Q-4Q66 มีแนวโน้มฟื้นตัวYoY และ QoQ ต่อเนื่องเบื้องต้น คาดกำไรปกติ 3Q66 ที่ระดับ 250-300 ล้านบาท เติบโต YoY และ QoQ แม้ปริมาณขายนเมันมีแนวโน้มชะลอตัวลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล หลังได้แรงหนุนจากค่าการตลาดน้ำมันรวม ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับ 1.70 บาท/ลิตร +/-และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจปาล์ม (PPPGC) ที่คาดผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 3Q65 หลังปริมาณความต้องการใช้ไบโอดีเซลฟื้นตัวตามปริมาณการเดินทางในประเทศ

รับคำแนะนำจากเทรดดิ้งเป็นซื้อ ไตรมาส4กำไรฟื้นเดินจาก 3 ปัจจัยหนุน กำไรปีนี้1,005ล้านบาท

1 . แนวโน้มค่าการตลาดน้ำมันที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง

2. คาดปริมาณขายทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสที่ระดับ 1,600 ล้านลิตร +/-(ผลจากการเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวและช่วง High Season ของการท่องเที่ยวในประเทศ) และ

3. การขยายสาขาธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทยเป็น 1,200 สาขาภายในปี 2566 (มี703 สาขา ณ สิ้น 2Q66)

เราได้ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมณสิ้น2Q67 ที่13.20 บาท/หุ้น...ปรับค าแนะน าเป็น “ซื้อ ”เราคงก าไรปกติปี 2566 ที่ 1,005 ล้านบาท (+8% YoY) แต่ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้น 2Q67 ที่ 13.20 บาท/หุ้น (อิง PER 17.5 เท่า) มี Upside +32.0%

ทั้งนี้ราคาหุ้นมีการปรับตัวลงราว -8% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายลดค่าน้ำมันของรัฐบาลที่อาจมีการแทรกแซงค่าการตลาดน้ำมัน ส่งผลให้ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2566-67 เพียง 16.6 เท่า และ 11.0 เท่าตามลำดับดับจึงมองว่าเริ่มมี Downside จำกัดกัดแล้ว และในกรณีที่ภาครัฐไม่มีการประกาศมาตรการแทรกแซงค่าการตลาดน้ำมันจริงคาดส่งผลให้ราคาหุ้นฟื้นตัวตามผลประกอบการได้ในระยะกลาง-ยาว จึงปรับคำแนะน าจาก “TRADING” ขึ้นเป็น“ซื้อ

บล.ลิเบอร์ตี้ แนวโน้มการดําเนินงาน 3Q23 กลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร ยังมีความกังวลต่อแนวโน้ม 4Q23 ว่าหลังได้รัฐบาลใหม่ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายพลังงานในทิศทางใดซึ่งอาจส่งผลกระทบทางลบต่อการดําเนินงานอีกครั้ง

จาก สรุปประชุมนักวิเคราะห์ รามองบวกมากขึ้นต่อการดําเนินงานใน 3Q23 ว่ามีแนวโน้มดีขึ้นหลังมีการปรับราคาและการนําส่งกองทุนได้เร็วขึ้นช่ วยให้ค่าการตลาดกลับมาฟื้นตัว ใน 3Q23 จะกลับสู่เป้าที่ 1.80-1.90 บาทต่อลิตรได้ ส่วนปริมาณขายนํ้ามันคาดเพิ่มได้ตามเป้าหมายที่ +10-15% y-y หนุนให้การดําเนินงาน 3Q23 กลับมาฟื้นตัว q-q

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการปรับเป้ าปี 2023ใหม่ทํา ให้เราได้ปรับประมาณการตามประมาณการใหม่เช่น กันเราปรับปริมาณขายนํ้ามันปี 2023 เพิ่ม +12% y-y ที่ 5,951 ล้านลิตร และปรับค่าการตลาดเป็น 1.75 บาทต่ อลิตร ส่วนกลุ่ม non-oil คาดยอดขาย +45% y-y แต่ได้ปรับค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น รวมถึงได้มีการปรับลดการรับรู้ส่วนแบ่งกําไรจากบริษัทร่วมลดลงจากเดิมจากธุรกิจปาล์มยังอ่อนแอ ปรับกําไรสุทธิเป็น 980 ลบ. +5% y-y แผนเข้าตลาดฯ ของบ. ในกลุ่ม “เลื่อนไปก่อน”

สํา หรับแผนการนําบริษัทในกลุ่มเข้าตลาดฯ โดยเฉพาะกลุ่มปาล์มนั้นคงนํามาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ส่วนบริษั ท LPGปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับข้อมูลตามที่ตลาดฯ และกลต. แจ้งซึ่งคาดจะมีความชัดเจนในครึ่งปีหลัง