เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งชีวิต … อย่าปล่อยให้มิจฉาชีพมาหลอกไป

Categories : Update News, Wealth

Public : 09/25/2023

ในยุคปัจจุบันที่สื่อออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่เพียงเฉพาะประโยชน์ที่ได้รับจากข้อมูลข่าวสารผ่านการนำเสนอที่มีความน่าสนใจและรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น ภัยคุมคามจากมิจฉาชีพก็ฉวยประโยชน์จากสื่อออนไลน์แฝงตัวเข้ามาหลอกให้ลงทุนด้วยกลโกงสารพัดรูปแบบเช่นกัน และฉกเอาทรัพย์สินเงินทองที่เราสั่งสมมาตลอดชีวิตหายวับไปทันที

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจัดเป็นสวัสดิการด้านการออมเงินที่นอกจากลูกจ้างจะสะสมเงินเข้ากองทุนทุกเดือนแล้ว นายจ้างยังช่วยสมทบเงินอีกส่วนหนึ่งเข้ากองทุนทุกเดือนด้วยเช่นกัน และเมื่อถึงเวลาหนึ่ง จำนวนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะค่อย ๆ เติบโตขึ้น ด้วยกำลังของเงินทั้งในส่วนที่สะสมและสมทบ รวมถึงประโยชน์ที่มีโอกาสงอกเงยจากการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริหารโดยบริษัทจัดการกองทุน

ในกรณีที่ลูกจ้างเกษียณอายุและได้รับเงินก้อนใหญ่จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เก็บออมและลงทุนมาตลอดชีวิตการทำงานที่อาจเป็นหลักแสนหรือหลักล้าน เงินจำนวนนั้นย่อมถือเป็นของขวัญเพื่อนำไปใช้ในชีวิตหลังเกษียณ (คลิกดูตัวอย่างประสบการณ์จริงได้ที่ https://www.facebook.com/sec.or.th/videos/129268865938398) โดยผู้เกษียณอาจแบ่งเงินเป็นสัดส่วนไว้สำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แบ่งให้ลูกหลาน หรือนำไปลงทุนเพื่อหวังต่อยอดผลกำไร

เมื่อพูดถึงการลงทุนในปัจจุบันมีการลงทุนหลากหลายรูปแบบ หากพิจารณาตามทฤษฎีในการลงทุน ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุหลังเกษียณควรลงทุนในระดับความเสี่ยงต่ำเพื่อเก็บรักษาเงินต้นให้ปลอดภัย อย่างไรก็ดี อาจมีผู้เกษียณบางรายเห็นว่าการลงทุนในลักษณะดังกล่าวให้ผลตอบแทนน้อย (Low Risk Low Return) จึงมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า ดังนั้น เมื่อได้รับการชักชวนจากคนใกล้ชิด หรือผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในแวดวงตลาดทุน หรือเห็นโฆษณาชักชวนลงทุนตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ที่ดูน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้เกษียณอาจไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นมิจฉาชีพปลอมปนเข้ามาหลอกลวงหรือไม่ อีกทั้งเร่งรัดให้รีบลงทุนพร้อมด้วยข้อเสนอผลตอบแทนการลงทุนในระดับสูงมาล่อใจ และอาจนำเงินเกษียณก้อนใหญ่ไปลงทุนโดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องด้วยความระมัดระวัง ดังนั้น ความเสียหายรุนแรงที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้คือการสูญเงินเกษียณที่อาจเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตไปจากการถูกหลอกลงทุน

   

ก.ล.ต. จึงขอย้ำเตือนให้ผู้เกษียณทุกท่าน ระมัดระวัง ศึกษา และตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนเพื่อป้องกันตนจากภัยหลอกลงทุน โดยมากมิจฉาชีพมักใช้วิธีหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Facebook, Website, Line, X (เดิมชื่อ Twitter) และ TikTok โดยมีรูปแบบกลโกงต่าง ๆ เช่น แอบอ้างใช้ชื่อ โลโก้ หรือภาพผู้บริหารของหน่วยงานรัฐ บริษัท และบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และหลอกให้พูดคุย หรือโน้มน้าวให้เข้ากลุ่ม Line Open Chat แล้วล่อใจโดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูง การันตีผลตอบแทน และเป็นผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งหลอกว่าคนที่ไม่มีความรู้ก็ลงทุนได้เพราะความเสี่ยงต่ำ ตลอดจนแอบอ้างชื่อ ภาพ และเลขทะเบียนของผู้แนะนำการลงทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เป็นต้น

หากพบเจอหรือถูกชักชวนลงทุนในลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น อย่าตกหลุมพราง หรือหากสงสัยว่าผู้ชักชวนให้ลงทุนเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ สามารถเช็กง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเองผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน SEC Check First โดยสามารถค้นหารายชื่อบริษัท บุคคล และผลิตภัณฑ์การลงทุน ผู้ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ว่าได้รับอนุญาตหรือไม่ และขอให้เช็กเพิ่มด้วยว่าประเภทใบอนุญาตตรงกับที่กล่าวอ้างหรือไม่

สำหรับกรณีที่มีการแอบอ้างชื่อ โลโก้ หรือภาพผู้บริหารของหน่วยงานรัฐ บริษัท บุคคลที่มีชื่อเสียง และผู้แนะนำการลงทุน ขอให้ตรวจสอบโดยตรงกับหน่วยงานรัฐ บริษัท หรือบุคคลที่ถูกอ้างถึงตามช่องทางติดต่อที่เป็นทางการเท่านั้น นอกจากนี้ ขอให้พึงระวังก่อนโอนเงินทุกครั้ง ไม่โอนเข้าชื่อบัญชีบุคคลธรรมดา ให้โอนเข้าบัญชีปลายทางที่เป็นชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น และหากพบการกระทำที่น่าสงสัย ไม่ชอบมาพากล สามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต. โทร 1207 กด 2 หรืออีเมล complaint@sec.or.th

เงินก้อนที่ได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นผลลัพธ์จากการมีวินัยด้านการออมและการลงทุนของท่านที่สั่งสมมาตลอดหลายปีเพื่อใช้ในยามเกษียณ โดยหากท่านที่ประสงค์จะนำเงินไปต่อยอดให้เติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในรูปแบบใด ก.ล.ต. ขอให้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบเพื่อให้ปลอดจากภัยกลโกงหลอกลงทุน

**************************