KCC เดินหน้าออกหุ้นกู้วงเงิน 400 ล้านบาทนำเงินคืนหนี้หุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและนำเงินลงทุนซื้อหนี้ NPL เพิ่มการเติบโตต่อเนื่อง

Categories : Update News, Stock Market

Public : 10/12/2023

KCC เดินหน้าออกหุ้นกู้วงเงิน 400 ล้านบาทนำเงินคืนหนี้หุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและนำเงินลงทุนซื้อหนี้ NPL เพิ่มการเติบโตต่อเนื่อง

นายทวี กุลเลิศประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ ไนท คลับแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ือ KCC ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขายและการปรับปรุงทรัพย์สินรอการขายเพื่อจำหน่าย เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงิน 400 ล้านบาท ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่พศษ และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยหุ้นกู้มีอายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้ลงทุนทุกๆ 3 เดือน

หุ้นกู้ที่ออกและเสนอขายครั้งนี้วงเงิน 400ล้านบาท อยู่ภายใต้วงเงินที่บริษัทได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้น             ในการประชุมสามัญประจำปี 2566ที่ขอวงเงินไว้ 2,000 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้          จะนำไปชำระหนี้หุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดวงเงิน 350 ล้านบาทในเดือนนี้ ส่วนเงินที่เหลือจะนำไปลงทุนซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพประเภทสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนียนในการดำเนินธุรกิจภายในปี 2567 นายทวีกล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดําเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดกาโดยจะจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai แทนหุ้นสามัญของบริษัทฯซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในเวลาเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 11กันยายน 2566 ได้มีมติอนุมัติแผนปรับโครงสร้างฯ แล้ว

นายทวีกล่าวว่า ในส่วนของผลดำเนินงานถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายและแผนการที่วางไว้โดยสำหรับงวด         6 เดือนของปี 2566 รายได้จากการดเนินงานของบริษัทฯ เท่ากับ86.14 ้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจาก 2 ธุรกิจหลักได้แก่ 1. ธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPLs) และ 2.ธุรกิจบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPAs) หรับงวด 6เดือน ของปี 2566 บริษัท มีรายได้จาก 2 ธุรกิจหลักนวน 78.70 ล้านบาท และ7.14 ล้านบาท             หรือคิดเป็นร้อยละ 91.36 และ 8.29 ของรายได้จากการดเนินงานทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการดเนินงานอื่นที่ส่วนใหญ่มาจากดอกเบี้ยรับเงินฝากธนาคารและรายได้อื่นๆ