IMF หั่น GDP ไทยปีนี้เหลือ 2.7% หลังเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน

Categories : Update News

Public : 10/18/2023

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 และ 2567 โดยระบุถึงความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

IMF ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในปี 2566 ลงเหลือ 2.7% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3.4% และได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยในปี 2567 ลงสู่ระดับ 3.2% จากระดับ 3.6%

 

รายงานล่าสุดของ IMF ระบุว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์นั้น เป็นปัจจัยทำให้มีการปรับลดคาดการณ์ GDP

 

IMF ยังระบุด้วยว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์นั้น มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งขึ้นด้วย

   

ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IMF เตือนว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อาจจะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้น 10% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งขึ้น

 

Shanaka Peiris หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ IMF ระบุว่า   ได้มีการการปรับลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้เป็นผลมาจากตัวเลข GDP ในไตรมาส 2 ของไทยที่ขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวที่ล่าช้าและการส่งออกที่ชะลอตัว อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลังสถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้นและคาดว่าจะทยอยดีขึ้นไปจนถึงปีหน้า

 

 “ในระยะสั้นไทยอาจมีโจทย์ที่ต้องหาความสมดุลระหว่างการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังจากแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนในระยะยาวการเข้าสู่สังคมสูงวัยจะเป็นความเสี่ยงที่ต้องไทยต้องรับมือ”

    ด้านอัตราเงินเฟ้อของไทยยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียน เนื่องจากรัฐบาลไทยออกโครงการสนับสนุนเศรษฐกิจ และผลพวงของราคาอาหารในภูมิภาคอาเซียนที่ปรับตัวลง

ทั้งนี้ IMF คาดว่า อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของไทยในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.5%