แกร็บจับมือ 7พันธมิตรหนุนใช้รถ EV เปิดโมเดลสินเชื่อ ‘ผ่อนขับรับรถ’ ผ่อนจ่ายรายวัน ตั้งเป้า 8,000 คัน ภายในปี 2568

Categories : Update News, Finance

Public : 10/30/2023

แกร็บ ผนึก 7 พันธมิตร เดินหน้าโครงการ “Grab EV” ดันพาร์ทเนอร์คนขับเข้าถึงรถ EV 8,000 คัน ปี 2568 เปิด ‘ผ่อนขับรับรถ’ - ‘เช่าครบจบบนแอป’ หนุนคนขับใช้ EV 10% ใน 5 ปี ผนึก BYD ปล่อยกู้คนขับผ่อนรถยนต์ไฟฟ้า เน้นคนขับเดิม(เฉพาะรถยนต์)ที่มีประวัติ เบื้องต้นเลือกคนที่ขับเยอะ อยู่มานาน

 

แกร็บ ประเทศไทย จัดงาน “Grab EV-LUTION เปลี่ยน…เพื่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตที่ดีกว่า” ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ 7 พันธมิตรชั้นนำ ได้แก่ Rever Automotive, Moove, Swap & Go, EV Station PluZ, H SEM Motor, STROM และ Auto Drive EV เดินหน้าโครงการ “Grab EV” เพื่อผลักดันเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บให้ได้ 10% ภายในปี 2569 โดยเปิดตัว 2 โปรแกรมใหม่ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินให้คนขับสามารถเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น

ได้แก่ ‘ผ่อนขับรับรถ’ (Drive-to-Own) โปรแกรมสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบบผ่อนจ่ายรายวัน เจาะกลุ่มคนขับที่ต้องการให้บริการผู้โดยสารด้วยรถ EV และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ (End-to-End EV Bike Rental) โปรแกรมเช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราคาเริ่มต้นเพียง 125 บาทต่อวัน เจาะกลุ่มไรเดอร์ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการให้บริการเดลิเวอรีหรือรับ-ส่งผู้โดยสาร โดยภายใต้ความร่วมมือนี้คาดว่าจะช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเข้าถึง EV ได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 คันภายในปี 2568 พร้อมชวนผู้ใช้บริการร่วมรักษ์โลกผ่านฟีเจอร์  ‘Grab EV rides’ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสค้นหารถ EV ในพื้นที่และช่วงเวลานั้นๆ มาให้บริการเป็นตัวเลือกแรก

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวถึงการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแกร็บถือเป็นแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและขนส่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ แกร็บเคยประกาศตั้งแต่ปี 2022 ว่าภายในปี 2026 จะเปลี่ยนรถที่ใช้งานในระบบ 10% ให้เป็นยานยนต์ไฟฟ้า

“ความท้าทายของแกร็บ คือการทำอย่างไรให้พาร์ตเนอร์คนขับเข้าใจว่าใช้รถอีวีแล้วจะดีกว่าอย่างไร ทั้งเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่าย ความสะดวกในการชาร์จ ซึ่งต้องทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่จะผลักดันอย่างครบวงจร”

โดยที่ผ่านมาข้อจำกัดหลักๆ ของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยคือ มีจำนวนน้อย แต่นับจากปี 2022 เมื่อเริ่มมีผู้ผลิต และผู้จำหน่ายเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้เพิ่มความความหลากหลายของยานยนต์ไฟฟ้าให้เลือกใช้งาน ทั้งในส่วนของรถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์

นอกจากนี้ ยังต้องทำงานร่วมกับผู้ให้บริการจุดชาร์จรถอีวี ซึ่งในส่วนนี้แกร็บมีข้อมูลความหนาแน่นในการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ทำให้สามารถแชร์ข้อมูลเพื่อติดตั้ง และให้บริการจุดชาร์จรถอีวีให้เพียงพอต่อความต้องการด้วย

พร้อมกันนี้ Grab พร้อมนำเสนอระบบผ่อน และเช่าแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทย ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิจเช่าซื้อ และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พาร์ตเนอร์คนขับเข้ามาร่วมทำงานกับแกร็บ จากรถยนต์พลังงานสะอาด

น.ส.เมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ตเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย ให้ข้อมูลเสริมว่า ที่ผ่านมานักลงทุนไม่มีข้อมูลเพียงพอในการปล่อยสินเชื่อให้พาร์ตเนอร์ขับรถทำให้ช่วงแรกการปล่อยสินเชื่อจะเป็นในลักษณะของการเช่าใช้ ร่วมกับพาร์ตเนอร์คนขับราว 1,000 คน ทำให้มีข้อมูลการใช้งานมาตอบโจทย์ของนักลงทุนทั้งในแง่ของความต้องการ รวมถึงข้อมูลในการลงทุนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพิ่มจุดชาร์จรถไฟฟ้าตามตำแหน่งต่างๆ

โครงการเช่าใช้รถยนต์มอเตอร์ไซค์ของแกร็บ สามารถเปลี่ยนแบตฯ โดยไม่มีข้อจำกัดในแต่ละวัน รับการบำรุงรักษาฟรี มีคอลเซ็นเตอร์พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และมีรถให้เปลี่ยนในกรณีที่รถเสีย ภายใต้โปรแกรม ‘เช่าครบจบบนแอป’ ที่ร่วมกับพันธมิตรอย่าง STROM, H SEM Motor และ Swap & Go ให้บริการ

สำหรับโปรแกรมเช่าใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สำหรับพาร์ตเนอร์คนขับในการจัดส่งอาหาร จัดส่งพัสดุ หรือรับผู้โดยสาร จะมีค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 125 บาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้พาร์ตเนอร์คนขับเข้าถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 3,000 คันภายในปี 2024

ส่วนโปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ” (Drive-to-Own) ที่แกร็บทำงานร่วมกับผู้ให้บริการสินเชื่อยานยนต์ และ Rever Automotive ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD นำรถ BYD ทั้ง 3 รุ่นมาเป็นทางเลือกในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่ต้องดาวน์ ระยะผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน ซึ่งสามารถเลือกผ่อนจ่ายได้แบบรายวันหักจากรายได้ในการให้บริการแต่ละวัน

โดยพาร์ตเนอร์คนขับจะใช้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากทาง MOOVE ที่จะคำนวณจากประวัติในการให้บริการกับแกร็บ จึงเอ็กซ์คลูซีฟ เฉพาะผู้ขับที่ทำงานร่วมกันมานาน และมีประวัติการให้บริการดี ซึ่งคาดว่าโปรแกรมนี้จะเปิดให้จองรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ได้ในได้ในช่วงต้นปี 2024 และช่วยให้พาร์ตเนอร์คนขับสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าได้ 5,000 คันภายในปี 2025