JKNยังวุ่น! เจอฟ้องหมิ่นเรียกค่าเสียหาย1พันล้าน

JKN แจงเหตุ "ทีซีจี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป" ฟ้องหมิ่นเรียกพันลบ.กรณีโพสต์เตือนเหรียญMiss Universe Coin] ย้ำยังไม่สำรองในงบเพราะศาลยังไม่รับฟ้อง

ด้าน ผู้บริหาร ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ป ตั้งโต๊ะแถลง ฟ้องหมิ่น ชี้ไม่ทำแค่โทรบอกก็จบ  ไม่ใช่ผ่านโซเชียล พร้อมฟ้องเพิ่มฐานยักยอกทรัพย์ 

บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) ทำหนังสือตอบข้อซักถามของตลาดหลักทรัพย์แห่งประทศไทย (ตลท.) ที่ให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมในหมายเหตุประกอบงบการเงินไตรมาส3/66 นั้น บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงวาเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2566 บริษัท ทีซีจี โซเชียลมีเดีย กรุ๊ป จำกัด ยื่นฟ้องกล่าวโทษบริษัทและกรรมการผู้จัดการว่ากระทำผิดความอาญาและข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์

โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยทั้งสองได้โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทผ่านสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการที่โจทก์ได้ออกเหรียญ Miss Universe Coin อันเป็นเท็จทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โดยโจทก์ได้แนบหลักฐานบันทึกข้อตกลง พร้อมคำแปลมาพร้อมกับคำฟ้อง และอธิบายว่าได้มีการลงนามผูกพันกับจำเลยทั้งสองเรื่องการออกเหรียญไว้แล้ว และโจทก์ขอคิดค่าความเสียหาย 1,000 ล้านบาท โดยศาลนัดหมายไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 18 ธ.ค.66

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ เห็นว่าการที่บริษัทฯ และกรรมการผ้จัดการ ได้ประกาศข้อความแจ้งเตือนประชาชนและนักลงทุน ซึ่งเป็นการกระทำที่สุจริตและเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ จึงพิจารณาว่าเป็นข้อยกเว้นตามกฎหมายและไม่ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องต่อศาล บริษัทฯ มีความเห็นว่าโอกาสความเสียหายยังมีความไม่แน่นอนจึงไม่มีการตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงิน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากศาลยังไม่รับฟ้องจนกว่าการไต่สวนมูลฟ้องจะเสร็จสิ้น และจะมีผลต่อเมื่อศาลมีคำสั่งว่าคดีนี้มีมูลเพียงพอที่จะรับไว้พิจารณา และเนื่องจากผลกระทบดังกล่าวยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน บริษัทฯ จึงยังมิได้ตั้งประมาณการความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในงบการเงินดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจในการจัดเตรียมข้อมูลที่จะให้กับศาล และเชื่อได้ว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้เรียบร้อย

ผู้บริหาร บริษัท ที ซี จี โซเชียล มีเดีย กรุ๊ปจำกัด เปิดแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่ยื่นฟ้อง บมจ.เจ เค เอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) และนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ แอน จักรพงษ์ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยเผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวข้องกับโปรเจ็คต์ Miss Universe Coin (MU Coin) โดยให้ข้อมูลเท็จต่อสาธารณะว่าเป็น Project Cyptocurrency ที่ บริษัท JKN ซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ Miss Universe ไม่ได้เกี่ยวข้อง รวมถึงมีข้อความภาษาอังกฤษที่แจ้งต่อสาธารณะว่า MU coin เป็นเหรียญหลอกลวงที่ใช้ชื่อปลอม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท

"หากเขาไม่อยากทำเหรียญ MU Coin กับเราก็แค่โทรมาแจ้งกับเรา เราก็เข้าใจ ซึ่งเราร่วมกันในฐานะ Partner แต่ตอนหลังมากล่าวหาเราหนักสุดว่าเราเป็นมิจฉาชีพ ทั้งๆที่เราก็รู้จักเราและต่างเป็นหุ้นส่วนกัน" นายจักรพันธ์ กล่าว

นายจักรพันธ์ ปุณยปภา ผู้บริหาร ที ซี จี ฯ ระบุว่า โครงการเหรียญ MU Coin เป็นธุรกิจที่ได้ลงนามเอกสารความร่วมมือกันระหว่าง ที ซี จีฯ กับ JKN เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นข้อความที่ JKN ได้โพสต์ลงโซเชียลได้สร้างความเสียหายอย่างมาก จึงได้เข้าฟ้องร้อง JKN และนายจักรพงษ์ ต่อศาลอาญา เมื่อวันที่ 25 ก.ย.66 และศาลได้ประทับรับฟ้อง ตราเลขคดีดำที่ อ.2860/2566 และนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 18 ธ.ค. 66 เวลา 13.00 น. เรียกร้องค่าเสียหาย 1 พันล้านบาท เพื่อปกป้องชื่อเสียงและชดเชยความเสียหายบางส่วนที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ที ซี จีฯ ยังเข้าแจ้งความคู่กรณีที่เกี่ยวข้องกับ JKN เพิ่มเติม คือ น.ส. พิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ น้องสาว นายจักรพงษ์ รวมถึงเจ้าของเพจ Miss Universe Thailand, Hello Universe ข้อหาหมื่นประมาทด้วยการโฆษณาหลังสืบพบว่ายังให้ข้อมูลเท็จต่อที่สาธารณะ และยังพบว่าทีพีเอ็น โกลบอล (TPN GLOBAL) ผู้ถือลิขสิทธิ์จัดการประกวด Miss Universe Thailand (MUT) โพสต์ข้อความหมิ่นประมาทบริษัทด้วย แต่ปัจจุบันยังให้เวลากับทาง TPN GLOBAL เข้ามาพูดคุย หากไม่มาขอโทษหรือลบโพสต์ก็จะแจ้งความหมิ่นประมาทอีกรายเร็วๆ นี้

นายจักรพันธ์ เปิดเผยอีกว่า บริษัทยังได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มเติมในข้อหายักยอกทรัพย์ กับ JKN หลังทราบจากพนักงานของโรงงานผลิตเครื่องดื่ม บริษัท เอ็มเอ็นเบฟเวอเรจ จำกัด (MBB) ที่ JKN และ ที ซี จีฯ เป็นผู้ถือหุ้นร่วมว่า JKN ได้ทำการปิดบริษัทและขนย้ายทรัพย์สินบางส่วนออก โดยไม่แจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบ ทั้งการปิดโรงงานและเลิกจ้างพนักงาน ทำให้ ที ซี จีฯ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 40% ได้รับความเสียหายไปด้วยโดยที่บริษัทเข้าไปลงทุนราว 32 ล้านบาท

บริษัทยังเตรียมเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ตรวจสอบเกี่ยวกับธรรมาภิบาลในการบริหารงานของJKN หลังทำการปิดโรงงานโดยไม่แจ้งให้หุ้นส่วนทราบ ทั้งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเป็นการดำเนินการก่อนการขอยื่นฟื้นฟูกิจการ ก.ล.ต.จะมีแนวทางการดูแลกำกับกรณีนี้อย่างไร การปิดโรงงานผ่านมติจากบอร์ดบริหาร JKN หรือไม่ ยืนยันจะดำเนินการให้ถึงที่สุด