ออมสิน นำกำไรคืนสังคม ผ่านโครงการ “ออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน”

Categories : Update News, ESG News

Public : 12/04/2023

ออมสิน อวดผลสำเร็จเฟสแรก โครงการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม  “ออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน” ตอบโจทย์ความยั่งยืนผ่านการขับเคลื่อนด้านสังคม

 

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เผยผลสำเร็จโครงการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) ภายใต้ชื่อ “ออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน” ระยะที่ 1 (ปี 2565-2566) ในพื้นที่ 5 หมู่บ้านของตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ได้แก่ บ้านเปียงซ้อ บ้านห้วยฟอง บ้านสะจุก บ้านสะเกี้ยง และบ้านห้วยเต๋ย ให้เป็นพื้นที่เป้าหมายต้นแบบของการพัฒนา  โดยภารกิจทั้ง 10 มิติมีความคืบหน้าด้านการวางรากฐานและงานโครงสร้างต่าง ๆ ตามแผนงานโครงการกว่า 90% ได้แก่

     

มิติด้านส่งเสริมอาชีพสร้างงานสร้างรายได้ มิติด้านแหล่งทุนและส่งเสริมการออม มิติสุขภาพและคุณภาพชีวิต ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ด้านการศึกษาและศาสนา รวมถึงมิติด้านยกระดับการท่องเที่ยว โดยธนาคารเตรียมเดินหน้างานระยะที่ 2 ขยายผลสร้างการมีส่วนร่วม และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ชุมชนมีความรู้ สามารถดูแลตัวเองได้อย่างเข้มแข็งต่อไปในอนาคต

           

สำหรับความก้าวหน้าที่สำคัญของโครงการ ได้แก่ การส่งเสริมสร้างรายได้เพิ่มแก่ครัวเรือน โดยเข้าลงทุนก่อสร้างโรงแปรรูปผลผลิตกาแฟโดยความร่วมมือของธนาคารออมสินกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 100% ซึ่งต่อไปเกษตรกรจะสามารถใช้บริการโรงแปรรูปกาแฟนี้ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มราคาขายผลิตผลกาแฟที่เก็บเกี่ยวได้มากขึ้นกว่า 10 เท่า จากกิโลกรัมละ 21 บาท หลังกระเทาะเปลือกแปรรูปเป็นกาแฟกะลา ราคาจะเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้อย่้างน้อย 2 หมื่นบาทต่อ 2 ไร่ และในอนาคตจะเพิ่มเป็น 4 หมื่นบาทต่อ 2 ไร่ หลังเข้ารวมกลุ่มโรงแปรรูปกาแฟ ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูงกลุดพ้นเส้นความยากจนได้ รวมทั้งยังช่วยลดพื้นที่ปลูกข้าวโพด ซึ่งจะช่วยลดการใช้ปุ๋ย และลดเรื่องมลพิษทางอากาศ ที่เกิดจากฝุ่นย PM 2.5  ที่เกิดจากการเผาไร่ข้าวโพดของเกษตรกร

           

รวมถึงการส่งเสริมให้สมาชิกชุมชนเริ่มกิจการโฮมสเตย์เพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ โดยมีผู้เริ่มทำโฮมสเตย์เพิ่มขึ้นเป็น 37 ราย จากเดิมที่มีโฮมสเตย์เพียง 11 ราย สามารถสร้างรายได้เพิ่มนอกฤดูเกษตรกรรมให้ครัวเรือนได้มากขึ้นกว่าเท่าตัว

         

  นอกจากนี้ ด้านส่งเสริมการออม ธนาคารได้สนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ของชุมชนบ้านห้วยฟองให้เริ่มมีเงินออมเป็นครั้งแรก โดยเริ่มรับฝากครั้งแรกในช่วงเดือนมิถุนายน 2566 จนถึงปัจจุบัน มีสมาชิกเงินฝากซึ่งเป็๋นคนกลุ่มชาติพันธุ์ รวมอยู่ด้วยรวม 77 คน คิดเป็นยอดเงินฝากรวมกันมากกว่า 3.3 แสนบาท รับเงินฝากขั้นต่ำ 100 บาท แต่ไม่เกิน 5,000 บาท ต่อครั้ง ใน 1 เดือน    

รวมถึงการจัดตั้งธนาคารโรงเรียนรูปแบบพิเศษเป็นแหล่งเงินออมของนักเรียนและครูของโรงเรียนบ้านห้วยฟอง และโรงเรียนบ้านเปียงซ้อ ซึ่งเป็นโครงการธนาคารโรงเรียนแบบพิเศษ ที่ธนาคารกระตุ้นให้นักเรียนเริ่มรู้จักการออมเงิน ด้วยการจ่ายเงินสมทบ และการจัดกิจกรมการเรียนการสอนเรื่องการออมให้นักเรียน โดยระยะตั้งแต่เริ่มโครงการเพียง 8 เดือนชุมชนเล็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลแห่งนี้ สามารถมีเงินออมรวมกันกว่า 8 แสนบาท นับเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างรากฐานที่เข้มแข็งแก่ชุมชน และช่วยให้การออมเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่ายไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาที่สาขาในตัวเมืองซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางไปกลับไม่น้อยกว่า 4-5 ชั่งโมง

          โครงการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม (Holistic Area-Based Development) “ออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน”    

นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าภารกิจมิติอื่น ๆ อาทิ การสนับสนุนการปรับปรุงระบบน้ำอุปโภคบริโภคแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง โดยติดตั้งถังกักเก็บน้ำขนาดใหญ่พร้อมระบบกรองน้ำสะอาดเพื่อการบริโภค การติดตั้งระบบไฟฟ้าโซล่าร์ส่องสว่างในชุมชนและโรงเรียน การสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ จักรยานยนต์ พร้อมอาคารปฏิบัติงานแก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รวมถึงระบบอากาศมาตรฐานการแพทย์สำหรับคลินิคทันตกรรม และอุปกรณ์การแพทย์ห้องฉุกเฉิน เป็นต้น

   

อนึ่ง โครงการออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน เป็นการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวมที่ธนาคารออมสินตั้งเป้าให้เป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยึดโยงกับบริบทแวดล้อมของพื้นที่ มุ่งหวังสร้างคุณค่าร่วมตามกรอบแนวคิด CSV : Creating Shared Value ให้ธุรกิจเติบโต ควบคู่กับการสร้างประโยชน์เกิดแก่ชุมชนและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม.