MCAปี67ลุ้นกำไรทะลุ50 ล้าน

Categories : Update News, Stock Market

Public : 01/12/2024

“MCA” ตอกย้ำผู้นำให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบครบวงจรโบรกฯ ประเมินกำไรปี 67 แตะ 53-59 ลบ.

นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA เปิดเผยว่า บริษัทฯ เดินหน้าตอกย้ำการเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ครบวงจร (One-stop Service Marketing Solution) โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ตั้งแต่ต้นน้ำ – ปลายน้ำ โดยเพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจใหม่ ภายใต้รูปแบบการให้บริการ Distributor สู่การสร้าง New S-Curve ในอนาคต เพื่อตอบโจทย์การให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดทุกช่องทางความหลากหลายได้ครบทุกมิติ

นอกจากนี้ ยังประเมินภาพรวมธุรกิจในปีนี้ โดยมองว่า บริษัทฯ จะมีสัดส่วนรายได้จาก Distributor เพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจกิจกรรมทางการตลาด หรือ Outsource ยังคงมีดีมานด์การจ้างบุคลากรภายนอกเพื่อจัดเรียงสินค้า ขายสินค้ามีเทรนด์เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อบริษัทฯ ส่วนกิจกรรมทางการตลาดอื่น อาทิ โรดโชว์ อีเว้นท์ ในปี 2567 จะมีแนวโน้มเติบโต 15-20% ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตปี2567 เพิ่มขึ้น 30%

สำหรับปัจจัยการเติบโตส่วนหนึ่งมาจากการเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากงานบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด โดยบริษัทฯ ดูแลในส่วนงานด้านบริการพนักงานจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) โดยมีมูลค่างานรวมกว่า 80 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ เริ่มทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เป็นต้นไป และจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องตามระยะเวลาสัญญา 1 ปี อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตสอดรับประมาณการณ์ที่บริษัทหลักทรัพย์ประเมินไว้

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรปกติในปี 2023 ที่ 36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119% (YoY) ขณะที่รายได้รวมปี 2023 ที่ 499 ล้านบาท (+34% YoY) และกำไรปกติปี 2024 ที่ 59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% (YoY) และรายได้ปี 2024 ประเมินที่ 650 ล้านบาท (+30% YoY) ส่วน GPM ในปี 2023 -24 ประเมินไว้ที่ 22% สะท้อนโครงสร้างที่ใกล้เคียงกับปี 2022

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ประเมินรายได้จากการบริการในปี 2566-2567 ราว 489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% (YoY) และ 625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% (YoY) ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) เท่ากับ 19%ต่อปี จึงใช้สมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในปี 2566 ที่ระดับ 22.5% และปรับดีขึ้นเป็น 23% ในปี 2567 พร้อมประเมินกำไรสุทธิในปี 2566-2567 ที่ 33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% (YoY) และ 56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% (YoY) หรือคิดเป็นอัตราการ เติบโตเฉลี่ย CAGR) เท่ากับ 50% ต่อปี