ตลท .แถลงแผนธุรกิจปี67 มุ่งยกระดับความเชื่อมั่นมั่นตลาดทุน ผุดแพลตฟอร์มเกาะติดข้อมูลบจ. นำAIตรวจจับความผิดปกติในกานซื้อขายหุ้น-หลอกลงทุน

Categories : Update News, Stock Market

Public : 01/19/2024

ตลท .แถลงแผนธุรกิจปี67 มุ่งยกระดับความเชื่อมั่นมั่นตลาดทุน ผุดแพลตฟอร์มเกาะติดข้อมูลบจ. นำAIตรวจจับความผิดปกติในการซื้อขายหุ้น-หลอกลงทุน พร้อมสร้างความน่าสนใจตลาดทุนดึงอุตสาหกรรมใหม่ที่มีคุณภาพเข้าระดมทุน

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ในปี2567 ตลาดหลักทรัพย์ยังคงมุ่งมั่นในสร้างและยกระดับความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนเป็นภารกิจที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ  โดยจะทำ Financial data health check ติดตามคุณภาพ บริษัทจดทะเบียน(บจ.) ,ยกระดับการกำกับดูแล ตรวจสอบการซื้อขาย Surveillance Prevention and Analytics (SPA) จะนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ ข้อมูลการซื้อขาย พร้อมเตือนผู้ลงทุนเมื่อพบความผิดปกติ รวมทั้งประสานงานกับพันธมิตร เช่นสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เชื่อมต่อข้อมูล บจ. ระหว่างกัน และนำมาประมวลผล เพราะปัจจุบันเริ่มเห็นความผิดปกติ ในเรื่องของหุ้นกู้มากขึ้น

นอกจากนี้จะนำAI มาช่วยตรวจจับข่าวปลอมที่เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย เพื่อปกป้องประชาชนจากการถูกหลอกลงทุน และพร้อมดำเนินการทางกฎหมายทันทีกับเพจที่หลอกลงทุน

“เราจะพัฒนาระบบและเครื่องมือเพื่อปกป้องผู้ลงทุนโดยเชื่อมต่อข้อมูลทั้งภายในและภายนอกตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งจะให้ข้อมูล แบบรวดเร็วและทันเวลา เพราะเราตระหนักดีว่าการออกกฎกำกับต่างๆแม้ว่าจะเป็นเกณฑ์ที่ดีก็ไม่สามารถทันกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในโลกปัจจุบันได้ และ กรณีของ MOREและ STARK คือกรณีศึกษาที่ดีมากเพราะทั้ง2 กรณีเป็นการตั้งใจโกง ที่เกิดขึ้นในตลาดทุน “ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์กล่าว

อย่างไรก็ตามการยกระดับความน่าเชื่อต่อตลาดทุน ถือเป็นการทำต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ที่ได้ยกระดับการกำกับดูแล5 ขั้นตอน คือ 1.เพิ่มคุณสมบัติบริษัทเข้าจดทะเบียน ,2.เพิ่มการกำกับดูแล บจ.ที่มีปัญหาด้านผลดำเนินงาน โดยเพิ่มเหตุ C-sing ,3.เพิ่มระบบการตรวจจับการซื้อขายที่ผิดปกติ และศึกษาแนวทางจัดตั้ง Securities Bureau" ,4.เพิ่มเหตุการเพิกถอน และให้ บจ เปิดเผยเพิ่มกรณีมีเหตุสงสัย และ5. ตลท ให้ข้อมูลกรณีการซื้อขายร้อนแรง รวมทั้งเปิดเผยข้อมูล Program trading

สำหรับความสำคัญในอันดับถัดมานั้นคือ เพิ่มศักยภาพของตลาดทุนไทยโดยในส่วนของปริมาณบริษัทที่จะเข้ามานั้นจะดึงอุตสากรรมใหม่ๆที่มีคุณภาพเข้าระดมทุนมากขึ้น ทั้งใน SETและmai เช่นกลุ่ม ดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซ สุขภาพ เกษตรและอาหาร เป็นต้น

ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ในปีนี้ มีบริษัทใหม่ๆที่จะเสนอขายหุ้น ไอพีโอ ที่ได้ยื่นขออนุญาตแล้ว 43 บริษัท เป็นบริษัทในSET20บริษัท และmaiจำนวน 20 บริษัท และในกระดานLiVE จำนวน 3 บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม เซอร์วิส ,กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้และอุตสาหกรรม และถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ในจำนวนบริษัทที่ยื่นเข้ามามี จำนวน11 บริษัทอยู่ในธุรกิจกลุ่ม นิวอีโคโนมี่ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของตลาดหลักทรัพย์

“ สภาพตลาดหุ้นปีนี้โดยรวมน่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา และน่าจะเอื้ออำนวยต่อการเข้าระดมทุน ส่วนในเรื่องของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม(มาเก็ตแคป) ไม่สามารถคาดเดาได้ขึ้นอยู่กับระดับดัชนีที่มีหลายปัจจัยเข้ามากระทบ รวมถึงราคาที่บริษัทกำหนดในการเสนอขายด้วย

นอกจากนี้ยังเดินหน้าสนับสนุนการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน โดยตลท มีเป้าหมายชัดเจนจะเข้าสู่ Net Zero ภายในปี 2050