ตรุษจีนปีนี้ คาดเงินสะพัดเฉียด 5 หมื่นล้านบาท

Categories : Update News, Finance

Public : 02/06/2024

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงตรุษจีนและวาเลนไทน์ปี 67 คาดปีนี้คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา เพิ่ม 10% จากปี 66 ที่มีมูลค่าใช้จ่าย 4.5 หมื่นล้านบาท  รวมรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยอาจได้ 7 หมื่นล้านบาท  ส่วนวาเลนไทน์ปีนี้ห่วงใช้ความรุนแรงในเด็กและเยาวชน-ติดยา

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษา ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงตรุษจีนและวาเลนไทน์ปี 67 ที่สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,300 ตัวอย่างทั่วประเทศ วันที่ 25-31 ม.ค.67 ว่า ตรุษจีนปีนี้มีความคึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา และผลสำรวจพบจะมีมูลค่าการใช้จ่ายของประชาชนอยู่ที่ 49,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% จากปี 66 มีมูลค่า 45,017 ล้านบาท โดยกลุ่มตัวอย่าง 57.2% จะไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ และอีก 42.8% ไม่ไหว้ จากปี 66 ที่ตอบจะไหว้เจ้าตอบ 45.0%

นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนท่องเที่ยวมากขึ้น โดยมีผู้ตอบถึง 55.7% ส่วนใหญ่เที่ยวในประเทศ และไม่ไป 44.3% เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่ตอบไปเที่ยวเพียง 29.7% และไม่ไปสูงถึง 70.3% สำหรับการใช้จ่ายส่วนใหญ่จะหมดไปกับการซื้อของเซ่นไหว้ ทำบุญ เที่ยวในประเทศ แต๊ะเอีย ไปทานข้าว-สังสรรค์ ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค-เสื้อผ้า-สินค้าฟุ่มเฟือย-สินค้าคงทน และเครื่องประดับ

โดยส่วนใหญ่ 40.3% บอกว่า ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น แก้ชง ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐ รายได้เพิ่ม ธุรกิจได้กำไรมากขึ้น และได้โบนัสมากขึ้น ส่วน 33.7% บอกใช้จ่ายลดลง เพราะลดค่าใช้จ่าย รายได้ลด มีหนี้มากขึ้น เศรษฐกิจแย่ลง ตกงาน เสถียรภาพทางการเมือง ภัยธรรมชาติ และอีก 26.0% ใช้จ่ายเท่าเดิม โดยเน้นซื้อของจำเป็น ลดจำนวนชิ้น ลดคุณภาพ ใช้ของเหลือจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม ในด้านเงินแต๊ะเอีย แม้เศรษฐกิจปัจจุบันยังฟื้นตัวไม่โดดเด่น แต่ส่วนใหญ่ยังคงให้แต๊ะเอียเหมือนเดิม

ขณะเดียวกัน ยังได้สอบถามเกี่ยวกับสถานภาพหนี้ครัวเรือนปี 67 เทียบปี 66 ซึ่งมากถึง 38.3% บอกหนี้เพิ่มขึ้น, 39.3% เท่าเดิม และ 22.3% ลดลง โดยผู้มีรายได้เดือนละ 5,000-10,000 บาท มีหนี้มากกว่ารายได้ ส่วนต่ำกว่า 5,000 บาทมีหนี้พอๆ กับรายได้ ซึ่งความเป็นอยู่แย่ลงมาก และมากกว่า 40,000 บาทมีหนี้น้อยกว่ารายได้

อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบมองว่า มาตรการอีซี อี-รีซีท (Easy E-Reciept) จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ปานกลาง และมอวว่า เศรษฐกิจไทยขณะนี้ยังแย่มาก น่าจะดีขึ้นไตรมาส 4/67 ขณะที่การสำรวจผู้ประกอบการ พบว่า อีซี อี-รีซีท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก และเศรษฐกิจไทยปีนี้น่าจะโตได้ต่ำกว่า 2.5%

สำหรับผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ พบว่า จะมีเงินสะพัด 2,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากปี 66 ที่มีค่าใช้จ่าย 2,389 ล้านบาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 2,125 ล้านบาท จากปี 66 ที่ 1,847 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลของการสำรวจย้อนหลัง 3 ปี พบความกังวลปัญหาเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นมาก โดยกังวลมากที่สุดคือ การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ติดยาเสพติด ถูกล่องลวงทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงเป็นโรคซึมเศร้า จากการอยู่คนเดียว จึงจำเป็นที่ภาครัฐ สถาบันการศึกษา และครอบครัวต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะจะเป็นปัญหาสังคมในระยะยาว ซึ่งน่าห่วงกว่าปัญหาเศรษฐกิจ ที่ในระยะยาวฟื้นตัวแน่นอน

“ผลสำรวจของทั้ง 2 โพลล์ ทำให้เห็นว่า ปีนี้ เศรษฐกิจไทย ยังฟื้นตัวไม่โดดเด่น ประชาชนยังระมัดระวังใช้จ่าย โดยยังฟื้นเป็นรูปตัว K แต่ยังเห็นการฟื้นตัว ถ้ารวมเงินสะพัดจากตรุษจีนปีนี้ กับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยในช่วงตรุษจีน ซึ่งตามสถิติจะเข้าไทยประมาณสัปดาห์ละ 800,000 คน ก็น่าจะทำให้ช่วงตรุษจีนมีเงินสะพัดได้มากถึง 55,000-60,000 บาท หรืออาจจะถึง 70,000 ล้านบาทได้”