MINT เปิดแผน3ปีลงทุน3หมื่นล้านดันรายได้-กำไรนิวไฮ

Categories : Update News, Stock Market

Public : 02/09/2024

MINT เปิดแผน3ปีทุ่ม3หมื่นล้านลุยขยายธุรกิจโรงแรม -อาหาร พน้อมเดินแผนลดหนี้เหลือ9 หมื่นล้านปี นี้ ดันรายได้และกำไรโต ลั่นปี67 กำไรนิวไฮ

นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT) เปิดเผยว่า MINT วางเป้าหมายช่วง 3 ปี (ปี 67-69) ลงทุน 3 หมื่นล้านบาท รายได้เติบโตเฉลี่ย8-10% ต่อปี และจะเพิ่มกำไรเฉลี่ย 15-20% ต่อปี โดยที่จะต้องสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งตามแผนจะเพิ่มจำนวนโรงแรมใหม่เป็น 780 แห่งจากปัจจุบัน 532 แห่ง เน้นการขยายในต่างประเทศเป็นหลัก สัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรม 90% จะมาจากโรงแรมในต่างประเทศ และ 10% จะมาจากโรงแรมในไทยพร้อมเพิ่มจำนวนร้ารอาหารเป็น 3,700 สาขา จากปัจจุบัน 2,600 สาขา สัดส่วนรายได้จากร้านอาหารในไทย 60% และต่างประเทศ 40% ส่วนธุรกิจ Lifestyle ได้ปรับโครงสร้างเข้าไปในธุรกิจโรงแรมแล้ว ทำให้ไม่ได้มีการแยกสัดส่วนธุรกิจออกมา

บริษัทยังวางแผนลดส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีเงินได้ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt to EBITDA) ให้เหลือ 4.3 เท่าภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่ 6 เท่า บริษัทยังคงเดินหน้าไนการลดหนี้ต่อเนื่องเพื่อทำให้ดอกเบี้ยจ่ายลดลงช่วยหนุนกำไรของบริษัท โดยในสิ้นปี 67 จะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลงมาที่ 0.8 เท่า จากปี 66 ที่ 1 เท่า ซึ่งจะลดหนี้ให้เหลือ 9 หมื่นล้านบาท จาก 1 แสนล้านบาทรวมถึงจะมีการขายสินทรัพย์บางรายการและเช่ากลับมา ซึ่งจะทำให้หนี้สินลดลง และหนุนต่อมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น

แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/67 ยังมี Momentum ที่ดีต่อเนื่อง ทั้ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารที่สามารถทำได้ตามเป้าที่บริษัทวางไว้ และยังคาดหวังผลการดำเนินงานไตรมาส 2/67 ที่จะยังมี Momentum ที่ดีเช่นกัน เนื่องจากเป็นฤดูร้อนของไทย และมีเทศกาลที่สำคัญ โดยเฉพาะสงกรานต์ หนุนธุรกิจโรงแรมก่อนเข้า Low season ส่วนธุรกิจร้านอาหารยังสามารถสร้างยอดขายที่แข็งแกร่งต่อเนื่องจากปลายปี66 ซึ่งบริษัทยังคงทำแคมเปญต่างๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดต่อเนื่อง ทำให้ร้านอาหารในเครือ MINT มีรายได้และกำไรดีขึ้น

ผลการดำเนินงานปี 67 ให้เติบโตต่อเนื่องจากปี 66 คาดว่าแนวโน้มกำไรจะยังทำNew high ต่อจากปีก่อนที่มีกำไรจากการดำเนินงานเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (New high) ที่ 7.7 พันล้านบาท ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและธุรกิจร้านอาหาร หลังผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

ภาพรวมของปี 67 สิ่งที่ MINT ยังคงให้ความสำคัญ คือ การเพิ่มจำนวนยอดใช้จ่ายต่อหัวของลูกค้า (Spending) เพื่อเพิ่มความสามารถการสร้างรายได้และการทำกำไรควบคู่กันไป นอกเหนือจากที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวขึ้น คาดว่าปีนี้ภาคการท่องเที่ยวจะเห็นความคึกคักทั้งในไทยที่ประเมินจำนวนนักท่องเทื่ยวมากกว่า 35 ล้านคน จากปีก่อน 20 กว่าล้านคน และนักท่องเที่ยวในยุโรปก็น่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยที่MINT ให้ความสำคัญ คือ การทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทั้งในโรงแรมและร้านอาหาร เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจในกลุ่ม

แนวโน้มธุรกิจโรงแรมในปี 67 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากรายได้ห้องพักในเดือน ..67 รวมทั้งยอดจองห้องพักล่วงหน้าในเดือนก..และมี.. 67 ในไทยสูงกว่าปีก่อน 39% มาจากฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย และได้แรงหนุนจากเทศกาลตรุษจีน ขณะที่รายได้ห้องพักโรงแรมในยุโรปเพิ่มขึ้น 20% เนื่องจากต้นปีอากาศในยุโรปไม่ได้หนาวมากและขณะนี้อุ่นขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวคึกคัก คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นต่อเนื่องในช่วง Summer ซึ่งเป็น High Season ของยุโรป