ครม.ไฟเขียวหวยเกษียณ ชูออกรางวัลทุกศุกร์ หวังดึงเงินออมจากแรงงานนอกระบบได้ปีละ 1.3 หมื่นล้าน
Categories : Update News, Finance
Public : 17/07/2024ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัะฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (รมช.คลัง) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบส่งเสริมการออมทรัพย์ของกองทุนการออมแห่งชาติ เพื่อรองรับการเกษียณผ่านโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือ หวยเกษียณ โดยมอบหมาย กอช. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. กอช. ในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการดำเนินโครงการหวยเกษียณต่อไป
สำหรับหลักเกณฑ์ ดังนี้
ผู้ออม ได้แก่ สมาชิก กอช. ผู้มีอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบ มาตรา 40 สามารถซื้อสลากขูดดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน กอช.ใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน
2. สามารถซื้อได้ทุกวันตลอด 24 ชม. ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.
3. รางวัลที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และรางวัลที่ 2 จำนวนเงิน 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล ผู้ถูกรางวัลจะสามารถถอนเงินรางวัลได้ทันที หากรางวัลออกไม่ครบ รางวัลจะสมทบไปงวดต่อไป
4. ไม่ว่าถูกรางวัล หรือไม่ถูกรางวัล เงินที่ซื้อสลากทุกบาท จะถูกเก็บไว้ในบัญชีเงินออมของแต่ละบุคคล ผ่าน กอช. และจะสามารถถอนคืนได้ตอนอายุ 60 ปี เพื่อการออมทรัพย์รองรับการเกษียณ
5. เงินในบัญชีนั้นยังได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนตลอดระยะเวลาก่อนเกษียณ ผ่าน กอช.
ด้าน ผลการประชุมคณะกรรมการ กอช. วาระพิเศษเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2567 มีมติเห็นชอบแนวทางในการส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก กอช. เพื่อรองรับการเกษียณแก่ประชาชน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว กอช.จะมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายได้เมื่อมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับหลักการโครงการสลากสะสมทรัพย์ฯ
โดยมีรายละเอียดโครงการสรุปได้ ดังนี้
ผู้มีสิทธิซื้อสลาก สมาชิก กอช. ปัจจุบัน 6 ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ผู้ประกอบอาชีพอิสระ และแรงงานนอกระบบที่มีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์
เป้าหมายของโครงการ
การมีจำนวนสมาชิกประเภท ช. 7 ไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 ปี
(คาดว่าจะมีสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ 0.36 - 21 ล้านคนต่อปี)
รูปแบบการดำเนินโครงการ
(1) ออกสลากเริ่มต้นประมาณ 5 ล้านใบต่องวด (ต่อสัปดาห์) หรือ 260 ล้านใบต่อปี โดยกำหนดออกรางวัลทุกวันศุกร์ (รวม 52 งวดต่อปี) ในราคาขายใบละ 50 บาท คิดเป็นเงิน 250 ล้านบาทต่องวด หรือ 13,000 ล้านบาทต่อปี
(2) กำหนดรูปแบบสลากเป็นสลากดิจิทัล (สลากขูดดิจิทัล) โดยผู้ซื้อลงทะเบียนการซื้อและซื้อผ่านช่องทางอ่อนไลน์ในลักษณะแอปพลิเคชันที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ทั้งนี้ จำกัดการซื้อสลากต่อคนได้สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน หรือคนละไม่เกิน 60 ใบต่องวด
(3) จำนวนเงินที่ซื้อสลากจะถูกเก็บเป็นเงินสะสมเฉพาะบุคคล โดยจะได้รับเงินที่ซื้อสลากคืนทั้งหมดในรูปแบบเงินบำเหน็จเมื่ออายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่สมทบเงินให้กับผู้ซื้อสลากและไม่รับประกันผตอบแทนจากการซื้อสลาก
(4) กอช. ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน (ด้านการรับเงินซื้อสลากและเก็บเป็นเงินสะสมให้กับสมาชิกเป็นรายบุคคล)
รวมทั้งบริหารจัดการและดูแลข้อมูลสมาชิกประเภท ข. เช่น การจ่ายเงินรางวัล การคืนเงินให้สมาชิกประเภท ข.และการจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์กรณีสมาชิกประเภท ข.เสียชีวิตก่อนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
(5) คณะอนุกรรมการด้านการลงทุน (แต่งตั้งโดยคณะกรรมการ กอช.) ทำหน้าที่กำกับดูแลและบริหารเงินสะสมที่สมาชิกประเภท ช. ซื้อสลากโดยจะบริหารเงินลงทุนภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยกฎกระทรวง รวมทั้งมุ่งเน้นการลดความผันผวนของมูลค่าเงินลงทุน ทั้งนี้ กอช. จะหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน (Operating fee) ตามมติคณะกรรมการ กอช.
(6) เมื่อสมาชิกประเภท ข. อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ กอช. จะจ่ายเงินบำเหน็จผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือจ่ายเงินบำเหน็จให้กับผู้รับผลประโยชน์ผ่านพร้อมเพย์เลขบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีสมาชิกประเภท ข. เสียชีวิต)