เจนเนอราลี่ กรุ๊ป โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรก จากการขยายธุรกิจ พร้อมคงสถานะเงินทุนอันแข็งแกร่ง

เจนเนอราลี่ กรุ๊ป เผยธุรกิจโตต่อเนื่องสวนกระแสเศรษฐกิจโลก โชว์ฟอร์มครึ่งแรกปี สร้างผลกำไรจากการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง กว่า พันล้านยูโร หรือราว 1.48 ล้านล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ 'Lifetime Partner 24: Driving Growth' มั่นใจเตรียมขึ้นแท่นผู้นำระดับโลกด้านธุรกิจประกันภัยและการจัดการสินทรัพย์ ด้วยการขยายธุรกิจที่หลากหลาย และความแข็งแกร่งของกระแสเงินสดรับจากธุรกิจประกันชีวิต

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกประจำปี เจนเนอราลี่ กรุ๊ป มีอัตราเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม (เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญอยู่ที่พันล้านยูโร คิดเป็น 993,065 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้หลักมาจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจประกันภัยทรัพย์สินเบ็ดเตล็ด (มีกระแสเงินสดรับจากธุรกิจประกันชีวิต (แข็งแกร่งอยู่ที่ ล้านบาท ( พันล้านยูโร) โดยได้แรงหนุนจากประกันคุ้มครอง (และประกันชีวิตควบการลงทุน (มูลค่ากำไรธุรกิจใหม่ (เพิ่มขึ้นเป็น ล้านบาท ( ล้านยูโร) (+ มีอัตราส่วนรวมอยู่ที่ 9.4% ทำให้ผลกำไรจากการดำเนินงาน (เติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่3.7 พันล้านยูโร หรือคิดเป็น,483,589 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น คิดเป็นผลกำไรสุทธิหลังปรับปรุง (อยู่ที่พันล้านยูโร มีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการ (ของกลุ่มบริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็น 32,626,482 ล้านบาท (821 พันล้านยูโร) (+25.2%) ซึ่งเป็นผลมาจากการรวมกิจการของบริษัทคอนนิ่ง โฮลดิ้งส์ จำกัด (นอกจากนี้สถานะทางเงินทุนยังคงความแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุน (อยู่ที่ จากการเข้าซื้กิจการ ลิเบอร์ตี้ เซกูรอส (และการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า ล้านยูโร

มร.ฟิลลิป ดอนเนท (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเจนเนอราลี่ กรุ๊ป กล่าวว่า “ผลกำไรจากการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการกลับมาแข็งแกร่งของกระแสเงินสดรับจากธุรกิจประกันชีวิต ได้ยืนยันความแข็งแกร่งและประสิทธิผลของกลยุทธ์ ตลอดจนถึงความสามารถในการสร้างมูลค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย แม้ในสภาวะเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความซับซ้อน โดยเรากำลังก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับโลกในด้านธุรกิจประกันภัยและการจัดการสินทรัพย์ ด้วยรูปแบบธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อสถานะเงินสดและทุนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 500 ล้านยูโร เป็นการสะท้อนถึงความตั้งใจของเราในการเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือนก่อนที่แผน ‘24: ของเราจะสิ้นสุดลง เรากำลังเดินหน้าไปสู่การบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายทั้งหมดตามที่ตั้งไว้ จากความทุ่มเทของบุคคลากรและตัวแทนของเราทุกคน สำหรับอนาคตนั้น เรากำลังทำงานร่วมกับทีมผู้บริหารระดับสูงในการวางกลยุทธ์ใหม่ของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งเราจะนำเสนอในงานพบนักลงทุน (ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2025 ณ เมืองเวนิส”