“ทรีนีตี้”ฟันธง!! เฟดลดดอกเบี้ย0.50% หนุนตลาดหุ้นไตรมาส4คึก! เหตุเงินบัญชี FCD 7.7 แสนล้านไหลกลับ!! ดันดัชนีขึ้นสู่ระดับ1,480จุด
Categories : Update News, Stock Market
Public : 09/19/2024เปิดมุมมอง“ทรีนีตี้”หลังเฟดลดดอกเบี้ย0.50% หนุนตลาดหุ้นไตรมาส4คึก! เหตุเงินบัญชี FCD 7.7 แสนล้านไหลกลับ!! ดันดัชนีขึ้นสู่ระดับ1,480จุด แนะหลีกเลี่ยงหุ้นวัฎจักร รับผลกระทบถดถอย -เพิ่มลวทันทองคำได้รับผลดีทั้งดอกเบี้ยลงและเศรษฐกิจถดถอย
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ประกาศลดอกเบี้ย0.50% ครั้งแรกรอบ 4ปีและส่งสัญญาณจะลงอีก1ครั้งก่อนสิ้นปี ว่า จะส่งผลต่อตลาดทุนโลกใน 10 ประเด็นหลักดังนี้
1. สำหรับในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯนั้น ประเมินว่าจะเป็นทางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีฯ (Nasdaq) ที่เริ่มกลับมาปรับตัว Outperform หุ้นกลุ่มวัฏจักร (Dow Jones) อีกครั้ง เนื่องจากมักเป็นกลุ่มที่ทนทานต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวนอกจากนั้นยังอาจรวมถึงหุ้นขนาดกลางขนาดเล็ก (Russell 2000) ที่จะได้ประโยชน์ส่วนเพิ่มอย่างรวดเร็วจากการปรับตัวลงของดอกเบี้ยในตลาด (High Degree of Financial Leverage) 2. สำหรับตลาดหุ้นไทย แนะนำหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่ม Global cyclicals ไปอีกระยะ เช่นกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี แม้ Valuation ส่วนใหญ่ของหุ้นกลุ่มนี้จะยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย จากความกังวลด้าน Global recession fear ที่น่าจะมีสูงขึ้นในช่วงถัดไป แนะนำโฟกัสการลงทุนไปที่กลุ่ม Domestic play ที่ยังคงมี Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยแทนต่อไป 3. ประเมินสภาพคล่องของไทยที่คงค้างอยู่ในบัญชี FCD ขณะนี้กว่า 7.7 แสนล้านบาทจะเริ่มมีการทยอยไหลย้อนหลับเข้าสู่ประเทศมากขึ้น ซึ่งบางส่วนน่าจะมีการไหลเข้าสู่ระบบตลาดทุนในประเทศได้ ถือเป็นปัจจัยที่จะช่วยประคับประคองตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ 4.มองสภาพคล่องส่วนเกินที่เตรียมจะไหลเข้ามามากขึ้นในช่วงถัดไป เมื่อมาประกอบกับความเกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในระดับต่ำ และ Valuation ที่ยังคง Laggard หุ้นขนาดใหญ่อย่างมากในการ Rally ของหุ้นไทยรอบนี้ จะทำให้เรามีโอกาสเห็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (sSET & MAI) กลับมา Outperform อีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้
5.ประเมินทองคำเป็น Winner ที่สำคัญจากเหตุการณ์เมื่อคืน เนื่องจากขาหนึ่งจะได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยที่มากกว่าคาด ส่วนอีกขาหนึ่งจะได้ประโยชน์จาก Recession fear ที่สูงขึ้น ดังนั้นหากราคาตกลงมาในช่วงสั้นมองเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับการเพิ่มน้ำหนัก
6.มองแนวโน้ม Bond yield สหรัฐฯมีโอกาสไหลลงต่อ โดยเฉพาะรุ่นระยะสั้น ดังนั้นสำหรับนักลงทุนที่มีกำไรจากการถือครองพันธบัตรสหรัฐมาก่อนหน้านี้ แนะนำให้สามารถ Let profit run ต่อไปได้
7.ส่วนในแง่ผลกระทบต่อค่าเงิน USD นั้น ถือว่าประเมินค่อนข้างยาก เนื่องจากขาหนึ่งอาจถูกกดดันจากปรากฏการณ์ USD carry trade ที่อาจจะดำเนินต่อไป แต่ในอีกขาหนึ่งนั้น อาจมีผู้ที่เป็นกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวโยกเงินเข้าสู่ Safe havens ซึ่งเงิน USD ถือเป็นหนึ่งในนั้น
8.การปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ในระดับ 0.50% นี้ ยิ่งเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นของเราที่ประเมินมาตลอดว่าธปท.จะ สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในสมมุติฐานการคำนวณระดับเป้าหมาย SET Index ของเรามาก่อนหน้านี้แล้ว (Best case @1480)
9.มองแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทยมีแนวโน้มปรับตัวลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯในช่วงถัดไป ดังนั้นสำหรับผู้ที่ถือครองตราสารหนี้ไทยอยู่ สามารถ Let profit run ต่อไปได้เช่นกัน
10.การปรับลงของ Bond yield ไทยที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไปนั้น ยังส่งผลให้มาตรวัด Dividend yield gap ของตราสาร Bond-liked อื่นๆเช่น IFF / REIT/ Utilities ปรับตัวสูงขึ้นต่อไปด้วย แนะนำ Overweight ในตราสารเหล่านี้ต่อไปด้วยเช่นกัน