ไทยพาณิชย์“เดินหน้าสู่ AI-First Bank ปี70 พร้อมเต็มสูบ !! รับมือทุกความท้าทาย – ธนาคารไร้สาขา -เศรษฐกิจโตต่ำ -สินเขื่อรายใหญ่แข่งเดือด เ
Categories : Update News, Finance
Public : 11/28/2024“ ไทยพาณิชย์“เดินหน้าสู่ AI-First Bank ปี70 พร้อมเต็มสูบ !! รับมือทุกความท้าทาย - ธนาคารไร้สาขา -เศรษฐกิจโตต่ำ -สินเชื่อรายใหญ่แข่งเดือด เดินหน้าลดต้นทุน เพิ่มรายได้มิใช่ดอกเบี้ยตั้งเป้าแตะ 30% ของรายได้ทั้งหมด จาก27% ในปัจจุบัน ปั้น ROE เลข2หลัก
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานตามกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch สร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง และสามารถพิชิตทุกเป้าหมายที่วางได้
โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2567 ธนาคารไทยพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 3.85 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (yoy) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 3.1% yoy รายได้จากธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% yoyอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น(ROE) ที่ระดับ 12.1% ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic Systemically Important bank: D-SIBs) มีต้นทุนต่อรายได้ที่ 36.7% ต่ำที่สุดในระบบ D-SIBs
นอกจากนี้ ในเรื่องความยั่งยืนนั้น ธนาคารไทยพาณิชย์ตอกย้ำบทบาทพันธมิตรในการพาลูกค้าทุกกลุ่มเร่งปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนกว่า1.34 แสนล้านบาท (ณ พ.ย. 2567) จากเป้าหมาย 1.5 แสนล้านบาทในปี 2568
" 850 วันที่ผมเข้ามาดำรงตำแหน่ง CEO ของธนาคารไทยพาณิชย์ ถือว่า สามารถเดินได้ตามเป้าหมายและกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ “
จากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 แสดงให้เห็นพัฒนาการทางด้านดิจิทัลแบงก์ ด้วย 5 ผลงานสำคัญ ได้แก่ 1. รายได้จากช่องทางดิจิทัลต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นสู่ 15% จาก 7% ณ ปลายปี 2566และตั้งเป้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% 2. นำการใช้ AI ครอบคลุมมิติสำคัญของธนาคาร อาทิ การใช้ AI อนุมัติสินเชื่อ 100% และเพิ่มขีดความสามารถด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแบบเฉพาะบุคคล (Hyper-personalization) รวมถึงการใช้ AI เสริมประสิทธิภาพให้กับพนักงานดูแลลูกค้าและบริการสาขา เป็นต้น 3. การเปลี่ยนกระบวนการจากระบบมือสู่อัตโนมัติได้มากกว่า 1,000กระบวนการ 4. การเพิ่มเสถียรภาพให้แก่ SCB EASY ซึ่งสามารถลด Downtime จาก 4 ช.ม. ในปี 2566 เป็น 1 ช.ม. ในปีนี้ และ 5.การวางรากฐานการเป็นธนาคารแห่งอนาคต ด้วยการลงทุนระบบหลักของธนาคาร (Core Bank) บนระบบคลาวด์
ขณะที่ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ได้สร้างผลงานโดดเด่นเชิงประจักษ์อย่างมาก โดยรายได้การบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% yoy ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน (Asset Under Advisory) เติบโต 11% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่เติบโต 1.5% นอกจากนี้ ธนาคารยังครองอันดับหนึ่งสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการประเภทอนุพันธ์แฝง (Structured Product) ครองอันดับหนึ่ง Wealth Lending และรักษาอันดับหนึ่งยอดประกันผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร (Bancassurance) ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 23%
“ เรามีเป้าหมายชัดเจนว่าอนาคตรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจะสัดส่วน 30% ของรายได้รวมจากปัจจุบันอยู่ที่ 27% ”
สำหรับในปี 2568อุตสาหกรรมธนาคารยังพบกับความท้าทาย 3ด้านใหญ่ๆ กล่าวคือ 1. ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตช้าลง โดยคาดการเติบโตของ GDP อยู่ที่ 2.4% 2. ระดับหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังสูงซึ่งเพิ่มความท้าทายในธุรกิจสินเชื่อมากขึ้นเพราะจะทำให้การปล่อยสินเชื่อยังต้องระมัดระวัง และสินเชื่อที่ขยายตัวได้ คือ สินเชื่อลูกค้ารายใหญ่ แต่ก็จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง และจะมีการแข่งเรื่องการลดดอกเบี้ยเกิดขึ้น และ
อีกทั้งเทรนด์อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และคาดว่าจะลดลงอีก0.25% ในปีหน้าก็จะกระทบเพราะทุกๆการลดลงของดอกเบี้ย 0.25% จะทำให้รายได้หายไป5พันถึง 1หมื่นล้ายบาทซึ่งขึ้นอยู่กับ ขนาดของแต่ละธนาคาร
3. เทรนด์ AI และกฎกติกาด้าน ESG ยังคงมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกิดขึ้นของธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศผู้ที่ได้ใบอนุญาต Virtual Bank อย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 จะเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญในระบบการเงินของไทย
“ ปี 2568 ธนาคารจึงได้วางแผนปรับทิศทางธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch โดยมุ่งสร้างการเติบโตธุรกิจและพัฒนากระบวนการภายใน (Scale & Operate) ให้เป็นธนาคารดิจิทัลที่เหนือกว่าทั้งเทคโนโลยีและบริการ เพื่อเป็นรากฐานไปสู่องค์กรยั่งยืนจากนี้ จึงเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับกับความท้าทายใหม่ที่จะเกิดขึ้น โดยจะให้ความสำคัญกับการสร้างคุณภาพใน 3 ส่วน ได้แก่ การมอบคุณภาพให้ลูกค้าด้วยบริการที่ตรงใจ การยกระดับคุณภาพขององค์กร และการสร้างพนักงานที่มีคุณภาพ ผ่านการปรับโครงสร้างและวิถีการทำงาน สร้างความสามารถในการแข่งขัน พร้อมพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยจะดำเนินการบน 3 แนวทาง ดังนี้
“ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและธุรกิจที่มีความท้าทาย ธนาคารต้องเร่งเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันเพื่อสร้างการเติบโตของกำไรอย่างยั่งยืน ความสำเร็จที่เราเป็นในวันนี้อาจไม่เพียงพอต่อการเป็นผู้นำในวันข้างหน้า ดังนั้น เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขันในอนาคต ธนาคารไทยพาณิชย์จึงต้องเร่งพัฒนาเพื่อให้เรายังคงวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและเป็นผู้นำต่อไปได้ โดยมีเป้าหมายในการนำยุทธวิธี AI-First Bank มาเป็นเครื่องยนต์หลักในการยกระดับธนาคารสู่ “ธนาคารแห่งอนาคต” ด้วยการนำ AI เข้ามาขับเคลื่อนองค์กรได้อย่างสมบูรณ์ และมีลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่เพียงสร้างความพึงพอใจ แต่ต้องสามารถคาดการณ์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้าได้แบบรายบุคคล รวมถึงการนำ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมของบุคลากร และสร้างไทยพาณิชย์ให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้นและคาดว่า ในปี 2570 ธนาคารไทยพาณิชย์ จะสามารถเป็นดิจิทัลแบงก์เต็มรูปแบบ “ นายกฤษณ์ กล่าว