ครม. อุ้มราคาพลังงาน สั่งลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาท นาน 4 เดือน ตรึงน้ำมัน-แอลพีจ๊
Categories : Update News, Energy
Public : 01/04/2025ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 เม.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยมีเป้าหมายในการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าที่จะเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้า สำหรับรอบใหม่เดือน พ.ค.-ส.ค. 68 เหลือไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท จากงวดปัจจุบันอยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาท โดยไม่มีการอุดหนุนงบประมาณของภาครัฐ

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุม ครม. วันที่ 1 เม.ย. 68 ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติกำหนดเป้าหมายให้ราคาค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 68 ไม่เกินหน่วยละ 3.99 บาท โดยมอบหมายให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ที่กำกับดูแลการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หาแนวทางลดราคาค่าไฟฟ้าลงตามเป้าหมายดังกล่าว
นอกจากนี้ ครม. ยังมีมติให้ กฟผ. และคณะกรรมการ กฟผ. รวมทั้ง กกพ. ร่วมดำเนินการ 3 ข้อต่อไปนี้ให้เสร็จภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ ครม.มีมติ ได้แก่ 1. หาแนวทางแก้ไขปัญหาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (พีพีเอ) รูปแบบการให้ส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (แอดเดอร์) และรูปแบบการให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (เอฟไอที) รวมถึงการแก้ไขเงื่อนไขที่กำหนดให้สัญญาดังกล่าวมีอายุสัญญาต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดสัญญาไว้ 2.หาแนวทางแก้ปัญหาค่าความพร้อมจ่าย (เอพี) และค่าพลังงาน รวมทั้งเงื่อนไขข้อตกลงอื่นในสัญญาพีพีเอ จากโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ตามสัญญารับซื้อไฟฟ้าระยะยาว ในทุกสัญญาที่มีเงื่อนไขที่ทำให้ กฟผ. หรือรัฐเสียเปรียบ หรือมีภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินควร หรือสูงเกินกว่าความเป็นจริง และ 3. หาแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคของข้อตกลงในสัญญารับซื้อไฟฟ้าต่างๆ ที่ทำให้ศูนย์การควบคุมระบบไฟฟ้า ไม่สามารถบริหารจัดการการสั่งผลิตไฟฟ้าให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ลดต่ำลงได้
ขณะเดียวกัน ครม. ยังมีมติเห็นชอบให้กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ศึกษาและเสนอแนวทางปรับโครงสร้างระบบพูล ก๊าซ เพื่อให้ราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับใช้ผลิตไฟฟ้าให้ประชาชน มีราคาต่ำลง โดยต้องดำเนินการให้ทันรอบประกาศราคาค่าไฟฟ้างวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 68
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 68 คณะกรรมการ กกพ. มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟทีงวดบิลค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค. 68 ไว้ที่หน่วยละ 36.72 สตางค์ ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บกับประชาชนเฉลี่ยยังอยู่ที่หน่วยละ 4.15 บาทเท่ากับงวดปัจจุบัน (ม.ค.–เม.ย. 68 ) หากต้องลดราคาครั้งนี้แนวทางที่เร็วที่สุดให้ทันประกาศใช้ในงวดนี้ ต้องยืดเวลาการทยอยคืนค่าภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (เอเอฟ) สะสมจำนวน 14,590 ล้านบาท หรือคิดเป็นหน่วยละ 20.33 สตางค์ และมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บเดือน ก.ย.–ธ.ค. 66 ของรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ ในระบบของ กฟผ. ต่อไป คาดว่า สิ้นเดือน ส.ค. 68 จะมีภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. รับภาระแทนประชาชนคงเหลืออยู่ที่ 60,474 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ด้านราคาน้ำมันคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันเบนซินและดีเซลลง 1 บาทต่อลิตร โดยจะทยอยปรับลด 2 ครั้ง ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร ในวันที่ 28 มีนาคม และ 4 เมษายน
ด้าน ราคาก๊าซหุงต้ม (LPG)คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติคงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มไว้ที่ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568.