”  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ” มองไทยโดน Reciprocal Tariff ที่ 37% ทำส่งออกสูญ4 แสนล้านบาท กดGPDลง1%

Categories : Update News, Finance

Public : 04/04/2025

"  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย " มองไทยโดน Reciprocal Tariff ที่ 37% ทำส่งออกสูญ4 แสนล้านบาท กดGPD เหลือแค่1.4% หรือหายไป 1%  ระยะสั้นมองกรอบเงินบาท 33-34.5บาทต่อดอลลาร์  ชี้รัฐต้องใช้นโยบายการเงิน-การคลังผ่อนมากขึ้นมองการประชุมกนง.ปลายเดือนี้จะกดดอกเบี้ยลง 1ครั้งและอีกครั้งครึ่งปีหลัง  พร้อมแนะ เตรียมโรดแมปเจรจา  กับสหรัฐฯ

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า การประกาศเพิ่มภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) จากสหรัฐฯ ในอัตราที่สูงเกินคาดเป็นการเดินเกมเพื่อเจรจา ซึ่งกำหนดการขึ้นภาษีที่จะมีผลในวันที่ 9 เม.ย. ค่อนข้างกระชั้น และไทยคงต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่จะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า การส่งออกปี 2568 จะหดตัว -0.5% จากเดิมที่มองไว้ 2.5%  หรือจะทำให้ภาคการส่งออกของไทยสูญเสียไปประมาณ  4 แสนล้านบาท  ส่วนจีดีพีไทย ได้รับผลกระทบราว 1% ทำให้ประมาณการใหม่อยู่ที่ 1.4% ต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 2.4% ซึ่งการประเมินดังกล่าวยังไม่ได้รวมผลของการเจรจากับสหรัฐฯ

"

นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า จาก Reciprocal Tariff ที่สหรัฐฯเก็บไทย 37%  เบื้องต้นคาดว่าจะกระทบมูลค่าการส่งออกของไทยประมาณ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 4 แสนล้านบาทในปี 2568

ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าว อาจจะปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาของภาครัฐหลังจากนี้ โดยอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า รถยนต์และชิ้นส่วน เกษตร และอาหาร เป็นกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม เมื่อประกอบภาพกับกำลังซื้อในประเทศที่อ่อนแอลงเพิ่มเติมหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหรือ (MPI) เสี่ยงจะหดตัวลงกว่าเดิม หรือติดลบ 3.4% ในปี 2568 (เดิมคาดที่ติดลบ 1.0%)

ขณะเดียวกัน แรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวก็ลดน้อยลง โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้เราปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2568 ลงมาที่ 35.9 ล้านคน (เดิมคาด 37.5 ล้านคน)

 

 ศูนย์วิจัยกสิกรระบุว่า รัฐจะต้องเตรียมการและมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจนในการไปเจรจาและจะต้องหารือร่วมกับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อนำข้อสรุปที่ได้จากหารือไปเจรจากับสหรัฐ และจะต้องเป็นท่าที่ที่จริงใจ เพราะไม่เช่นนั้นกระทบหนักกับเศรษฐกิจและครั้งนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เขย่าในทุกๆเรื่อง ทั้งนโยบายการเงิน การคลัง  ค่าเงินที่มองว่า ระยะสั้น ระดับ33-34.5บาทต่อดอลลาร์และในระยะยาวก็ขึ้นอยู่การการเจรจา และในภาวะแบบนี้ทองคำก็จะยิ่งสูงขึ้น "