เวทีนโยบายรับมือโรคอ้วนระหว่างเดนมาร์ก-ไทย: ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพื่อคนรุ่นหลัง

Categories : Update News, PR News

Public : 08/05/2025

เวทีนโยบายรับมือโรคอ้วนระหว่างเดนมาร์ก-ไทย: ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพื่อคนรุ่นหลัง

สถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ร่วมกับบริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด(โนโว นอร์ดิสค์) จัดงานเวทีนโยบายรับมือโรคอ้วนระหว่างเดนมาร์ก-ไทยขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเชิญผู้กำหนดนโยบาบุคลากรทางการแพทย์ และตัวแทนธุรกิจในวงการสาธารณสุขมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความท้าทายจากอัตราการเป็นโรคอ้วนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ โรคอ้วน - ความท้าทายด้านสุขภาพและเศรษฐกิจระดับชาติ ร่วมมือกันวันนี้เพื่ออนาคตของทุกคนภายในงานประกอบด้วยปาฐกถาจากตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และการเสวนาบนเวทีจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายภาคส่วน 

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้โรคอ้วนเป็นโรคเรื้อรังที่มีความรุนแรง ในประเทศไทยโรคอ้วนถือเป็นปัญหาทางสาธารณสุขสำคัญ โดยมีประชากรมากกว่าร้อยละ 40 ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนนอกจากนี้โรคอ้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคเรื้อรังร้ายแรง อาทิ เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคไตเรื้อรัง โดยเกือบหนึ่งในสามของผู้ที่เป็นโรคอ้วนประสบกับภาวะเหล่านี้, นอกจากจะเป็นความท้าทายด้านสาธารณสุขที่สำคัญแล้ว โรคอ้วนยังสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในรูปแบบของประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง ค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น และอุปสรรคระยะยาวต่อการพัฒนาของประเทศไทย มีการประมาณการเมื่อปีพ.ศ. 2562 ว่าโรคอ้วนส่งผลให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากกว่าร้อยละ 1.2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี (หรือราว 220,000 ล้านบาท) และคาดว่าตัวเลขนี้อาจสูงถึงร้อยละ 5 ของจีดีพี (หรือประมาณ 850,000 ล้านบาท) ภายในปี พ.ศ. 2603 หากไม่มีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่ากระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการรับมือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เนื่องจากเป็นหนึ่งในความท้าทายของระบบสาธารณสุขไทยและการพัฒนาประเทศ โดยขณะนี้กระทรวงฯ กำลังดำเนินการบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการแก้ไขปัญหาที่กำลังเพิ่มความรุนแรงขึ้นนี้

ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรีและประธานสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่าโรคอ้วนไม่ใช่แค่เรื่องของน้ำหนักตัวของแต่ละคนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระบบสาธารณสุขของไทยและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การรับมือกับปัญหานี้ ภาครัฐจำเป็นต้องทำงานร่วมกับภาคภาคเอกชนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

นพ.กฤ ลีทองอิน ที่ปรึกษาอาวุโส สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวถึงผลกระทบจากปัญหาโรคอ้วนว่าสุขภาพเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ เราจำเป็นต้องหาจุดสมดุลระหว่างการดูแลให้ผู้ป่วยทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในระยะยาว

ในฐานะเจ้าภาพของงานเสวนาครั้งนี้ ฯพณฯ แดนนี่ อนนัน เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทยกล่าวว่าความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาโรคอ้วนไม่ใช่เรื่องของประเทศใดประเทศหนึ่ง เดนมาร์กเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่โนโว

นอร์ดิสค์ ผู้นำระดับโลกด้านการจัดการโรคอ้วน ความร่วมมือระหว่างบริษัทเดนมาร์กกับหน่วยงานของไทย รวมถึงสถาบันด้านสาธารณสุขในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเดนมาร์กและไทย ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งในระดับองค์กรและระดับประชาชน

ภายในงานยังมีการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญ โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ, รศ. นพ. เพชร รอดอารีย์ นายกสมาคมเครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย และนายเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา(ประเทศไทย) จำกัด โดยการเสวนาเน้นทั้งนโยบายด้านโรคอ้วนในประเทศไทยและแนวทางจากต่างประเทศ โดยชี้ให้เห็นถึงความเร่งด่วนในการกำหนดนโยบายเพื่อรับมือกับอัตราการเป็นโรคอ้วนที่สูงโดยเฉพาะในเขตเมืองของประเทศไทย และเน้นย้ำถึงความจำเป็นของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

เราเชื่อว่าการรับมือกับวิกฤตโรคอ้วนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ความร่วมมือระหว่างรัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ และตัวแทนธุรกิจในวงการสาธารณสุขจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและจัดการกับโรคอ้วนนายเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าโนโว นอร์ดิสค์มุ่งมั่นที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคอ้วนและผลกระทบของโรค พร้อมทั้งร่วมสนับสนุนการดำเนินงานด้านสาธารณสุขของประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง