ก.ล.ต. ธปท. คปภ. ผนึกกำลังยกระดับมาตรฐานการให้ข้อมูลของ Finfluencer

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกันจัดทำโครงการ “Responsible Voices สำหรับ Finfluencer” เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ฟินฟลูเอนเซอร์ภาคการเงินการลงทุนและประกันภัยให้เผยแพร่ข้อมูลให้แก่ผู้ติดตามได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและตระหนักถึงความสำคัญของการให้ข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ

ศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า Finfluencer เป็นผู้ที่มีผลต่อความคิดและการตัดสินใจสำหรับผู้ลงทุน ผ่านการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียให้ข้อมูลด้านการเงินการลงทุน ทำให้ Finfluencer เข้ามามีบทบาทต่อการเลือกลงทุนและใช้บริการทางการเงินการลงทุน ดังนั้น ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแล จึงจำเป็นต้องตระหนักถึงการนำเสนอข้อมูลด้วยความรับผิดชอบ เพื่อร่วมกันเสริมสร้างกลไกการคุ้มครองผู้ลงทุนและประชาชน

   

     

ดร.ชญานิน เกิดผลงาม รองเลขาธิการ ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่กลุ่ม Financial Influencer ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นและการตัดสินใจของประชาชนในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ซึ่งล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนและมีฐานผู้ติดตามจำนวนมากและมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดและขยายองค์ความรู้สู่ประชาชน

ดร.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “Finfluencer คือพลังสำคัญที่ช่วยให้เรื่องเศรษฐกิจ การเงิน และนโยบายการเงิน กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย และใกล้ตัวมากขึ้น แต่ในยุคที่ข้อมูลหลั่งไหลอย่างรวดเร็ว ความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระบบการเงินได้ โครงการ Responsible Voices จึงมุ่งสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับสังคมไทย เพราะเมื่อคนไทยมีพื้นฐานความเข้าใจทางการเงินที่มั่นคง เศรษฐกิจของประเทศก็จะเติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืนในระยะยาว

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ กลต.  กล่าวว่า การให้ความรู้ Finfluencer ครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมในตลาดทุนไทยให้ดีขึ้น  สำหรับการนำเสนอข้อมูลของ  Finfluencer  จะเน้นดูที่วัตถุประสงค์การนำเสนอข้อมูลเป็นหลัก ถ้าเพื่อวิเคราะห์ให้ผู้ลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเป็นลักษณะเพื่อศึกษา การให้ความรู้ก็จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน แต่ถ้าพิจารณาว่าเข้าข่ายเสี่ยงผิดกฎหมายจะพิจารณาที่  3 หลักการได้แก่  1. มีเจตนาให้คำแนะนำหรือไม่  2 ทำในเชิงธุรกิจการค้าหรือไม่ และ 3 ทำแล้วได้รับผลตอบแทนหรือไม่ทั้งทางตรงและทางอ้อม แบบไหนอย่างไรหรือไม่ ถ้าเป็นการกระทำที่มีลักษณะ ชี้ชวน มีโอกาสที่สุ่มเสี่ยง จะต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ ร่วมด้วย  เช่นการตั้งกลุ่มไลน์ แล้วส่งรายงานหุ้นทุกเช้า หรือการนำเสนอข้อมูลการวิเคราะห์ โดยใช้ AI  เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ ต้องดูว่าวิเคราะห์จากหลักการอะไร แล้วใครเป็นคนใส่ข้อมูลให้ AI 

 

   

สำหรับโครงการรุ่นที่ 1 มีผู้ผ่านการคัดเลือก 50 คน โดยในวันแรกได้จัดเสวนา “มุมมองฟินฟลูเอนเซอร์ กับความรับผิดชอบทางการเงิน และการส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ” โดยผู้แทนจากหน่วยงานกำกับดูแล 3 แห่ง ที่มาแชร์มุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์การรับรู้ข้อมูลด้านการเงิน การลงทุน ประกันภัยของคนไทย ความท้าทายของฟินฟลูเอนเซอร์ในปัจจุบัน และบทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลที่นำไปสู่ความร่วมมือกันสร้างสังคมการให้ข้อมูลอย่างมีความรับผิดชอบ

ทั้งนี้ โครงการรุ่นที่ 1 จะมีกิจกรรมทั้งหมด 3 ครั้ง ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ณ สำนักงาน ก.ล.ต. วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ณ สำนักงาน คปภ. และวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ณธนาคารแห่งประเทศไทย

สำหรับการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการในรุ่นต่อไปสามารถติดตามได้ที่เฟซบุ๊กเพจสำนักงาน กลต. เพจธนาคารแห่งประเทศไทย และ เพจ คปภ. สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และเว็บไซต์ www.sec.or.th/responsiblevoices