ธ.ก.ส.จ่อชงบอร์ดตั้ง AMC  แก้หนี้เกษตรสูงวัยอายุ 70 ปี มูลหนี้รวมกว่า 5.5 พันล้าน

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ในช่วงต้นเดือน พ.ย. จะมีการพิจารณาความคืบหน้าเรื่องการจัดตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์ (AMC) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายแรก คือ กลุ่มเกษตรกรที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป และเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ทุกสัญญา ซึ่งปัจจุบันมีราว 2.8 หมื่นราย มูลหนี้ไม่รวมหลักประกันราว 5.5 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้ การจัดตั้ง AMC เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ จะดำเนินการในลักษณะ AMC in House ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ดำเนินการได้เร็วที่สุด ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) กฎกระทรวง หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน เพื่ออนุมัติให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการลดหนี้ แฮร์คัตหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว โดยหากได้รับความเห็นชอบแล้วก็ต้องไปดูในรายละเอียดต่ออีกว่า จะมีกระบวนการ ขั้นตอน หรือเงื่อนไขใดบ้างที่จำเป็นจะต้องขอความเห็นชอบเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลัง หรือ ครม. หรือไม่

           

“ การจัดตั้ง AMC ตามกรอบ พ.ร.บ. ธ.ก.ส. หากให้หน่วยงานอื่น เช่น บรรษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท  (SAM) หรือ บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) ดำเนินการร่วมกันจริง ๆ หน่วยงานนั้นก็จะต้องไปจดวัตถุประสงค์เพิ่ม และต้องของ ธปท. และต้องนำเรื่องเข้า ครม.  ทำให้มีกระบวนการต่าง ๆ ที่ใช้เวลานาน ดังนั้นหากจะตั้ง AMC ดังกล่าวภายใน 4 เดือนคงเป็นไปได้ยาก เราจึงเสนอแนวทางการตั้ง AMC in House ขึ้นมา” นายฉัตรชัย กล่าว

 

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า หากคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เห็นชอบแนวทางการจัดตั้ง AMC in House แล้ว ก็ยังมีขั้นตอนที่ต้องมาเร่งพิจารณาต่อ โดยเฉพาะเงื่อนไขลูกหนี้ที่จะเข้าข่าย เพราะขณะนี้กลุ่มเป้าหมายหลักเป็นลูกหนี้ที่อายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป และเป็น NPL ทุกสัญญาเงินกู้ แต่ลูกหนี้แต่ละรายมีหลายสัญญา บางราย 7-8 สัญญา เพราะเป็นการกู้แบบค้ำประกันไขว้ บางสัญญาเป็น NPL ขณะที่บางสัญญาไม่ได้เป็น ขณะเดียวกันก็ยังมีรายละเอียดเรื่องหลักประกันด้วย เพราะบางสัญญาเงินกู้มีหลักประกันเป็นสิ่งปลูกสร้าง ขณะที่บางสัญญาหลักประกันเป็นบุคคล เป็นการค้ำประกันแบบกลุ่ม ซึ่งหลักประกันส่วนใหญ่ที่มีมูลค่ามากกว่ามูลหนี้ การจะไปยึดหลักประกันก็ไม่ใช่เรื่องที่จำดำเนินการได้ง่าย เพราะไม่มีใครกล้าอนุมัติ ดังนั้นก็อาจจะต้องมาพิจารณาเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าแนวทางของ AMC in House นี้จะดำเนินการกับลูกหนี้อายุ 70 ปีที่เป็น NPL ทุกสัญญา หรือเฉพาะที่เป็น NPL บางสัญญา รวมถึงเรื่องหลักประกันว่าจะพิจารณาในเงื่อนไขอย่างไร

 

นอกจากนี้ ภายใต้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเกษตรกรอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปนั้น ก็ต้องมาดูต่อว่าลูกหนี้รายนั้นยังมีความพยายามที่จะอยู่ในภาคเกษตรต่อไปหรือไม่, จะเอาลูกหลานเข้ามารับภาระหนี้สินต่อได้หรือไม่, จะกู้เพิ่มได้หรือไม่ หรือจะปรับโครงสร้างหนี้ได้หรือไม่ เพราะตามข้อเท็จจริงแล้วต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีลูกหนี้บางรายที่ไม่จ่ายหนี้เลยก็มี ก็ต้องมาพิจารณาต่ออีกว่ากลุ่มนี้จะดำเนินการอย่างไร แต่ ธ.ก.ส. ยืนยันชัดเจนว่าไม่มีนโยบายในการยึดที่ดินเพื่อมาขายทอดตลาด โดยจะเร่งในการหาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป