CPALL กับการขยายสาขา 7-11 ในต่างประเทศ ยังสร้างโอกาสเติบโตเชิงบวกอีกมาก    2 ปีในกัมพูชาเปิดแล้ว 85 สาขา เป้าปีนี้ 100 สาขา

Categories :

Public : 06/11/2024

CPALL กับการขยายสาขา 7-11 ในต่างประเทศ ยังสร้างโอกาสเติบโตเชิงบวกอีกมาก

  2 ปีในกัมพูชาเปิดแล้ว 85 สาขา เป้าปีนี้ 100 สาขา

 
บมจ.ซีพี ออลล์  (CP ALL)   ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven  และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ อาทิ ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ ตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ "แม็คโคร"
 

CP ALL  เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อ 14 ต.ค. 2546  ะนับเป็นบริษัทมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนทั้งในแง่ของตัวเลขสำคัญทางการเงิน    เติบโตต่อเนื่องทุกๆ ปี โดยผลงานงวดล่าสุด ณ ไตรมาสแรก ปี 2567 มี รายได้ 2.41 แสนล้านบาท  และในจำนวนนี้เป็นรายได้ที่มาจากธุรกิจ “ร้านสะดวกซื้อ “  รายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 105,861 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.9 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 82,619 บาท และยอดขาย เฉลี่ยของร้านสาขาเดิมเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 4.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 85 บาทในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 972 คน

 

ขณะที่การขยายสาขายังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง นับจากเริ่มต้นจนถึงสิ้นไตรมาสแรกปี 2567 มีสาขา 7-11  มีสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14,730  สาขา   

 

 สำหรับการขยายการลงทุนไปต่างประเทศนั้นเริ่มแรก ทาง  CP ALL ตัดสินใจส่ง 7-11 ไป

กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซี่ยน ยังมีโอกาสเติบโตในเชิงบวก การเติบโตต่อของประชากรยังมีมากและการลงทุนจากประเทศต่างๆเข้าไปทำให้ อัตราการอุปโภคและบริโภคเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัทจึงมีกลยุทธ์ขยายการลงทุนเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน  บริษัทได้สิทธิแฟรนไซส์จาก  7-Eleven, Inc.  ในการเปิดและบริหาร  7-Eleven ที่กัมพูชาและสปป.ลาว

 

ทั้งนี้การเข้าไป ลงทุนในกัมพูชา เมื่อ ปี 2564  หรือเข้าไปในช่วงที่ทั้งโลกเผชิญกับ ไวรัสโควิด19 นั้นเอง โดยเริ่มแรกเปิดไป 40 สาขาและสิ้นปี 2566  มีทั้งสิ้น 82 สาขา การเปิดสาขายังยังคงดำเนินการมาต่อเนื่อง จนถึงสิ้นไตรมาสแรกปี 2567 บริษัทมีสาขาในประเทศกัมพูชาแล้วทั้งสิ้น 85 สาขา และวางเป้าหมายว่าในปีนี้จะเปิดให้ ครบ 100 สาขา!!

 

    อย่างไรก็ตามในรายงานงบการเงิน ซีพี ออลล์ ระบุไว้ชัดเจนว่า ปีนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 12,000 –  13,000 ล้านบาท แบ่งเป็น   การเปิดร้านสาขาใหม ่ 3,800 - 4,000 ล้านบาท การปรับปรุงร้านเดิม 2,900 - 3,500 ล้านบาท โครงการใหม่ บริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,000 - 4,100 ล้านบาท สินทรัพย์ถาวร และระบบสารสนเทศ 1,300 - 1,400 ล้านบาท

 

การออกไปกัมพูชา  ออกไปในช่วงโควิด 19 ทำให้  2 ปีนี้การขยายสาขาเหมือนไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยและถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะถึงตอนนี้เปิดได้  85  สาขาแล้ว ประมาณ ครึ่งๆเป็นทั้งขยายเองและ แฟรนไซส์ ซึ่งต้องยอมรับว่า 7-11 ได้รับการตอบรับที่ดีและเป็นที่รอคอยของคน กัมพูชา อีกทั้งการจัดสินค้าภายในร้าน ก็มีนโยบายชัดเจนว่าส่วนหนึ่งของสินค้าในร้านจะต้อง เป็นสินค้าท้องถิ่น ซึ่งเป็นนโยบายหลักของบริษัท และเป็นไปตามพันธกิจที่ว่า      “เป็นเพื่อนบ้านที่พึ่งพาได้   “ 

 

 อย่างไรก็ตามการออกไปลงทุนและทำธุรกิจในกัมพูชา นั้น ทางกลุ่มไม่ได้เข้าไปทำธุรกิจเพียงอย่างเดียวแต่นางกลับกันบริษัทก็จะสนับสนุนและให้ทุนลูกหลานคนกัมพูชา ได้เข้ามาเรียนในเมืองไทยด้วย

 

            ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชานั้น ถือว่าดีมาก หากดูเชิงเศรษฐกิจนั้น ไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 4 กับกัมพูชา และมีความสำคัญในด้านการลงทุนอันดับ 6 ซึ่งโอกาสการเติบโตในกัมพูชายังมีอีกมาก และเป็นโอกาสเติบโตของ 7-11 ใน กัมพูชาด้วย !!!!