คน Gen Y ผ่อนรถไม่ไหว เสี่ยงทำหนี้เสียพุ่ง ‘เครดิตบูโร’ หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย
Categories :
Public : 06/08/2023นายสุรพล โอภาสเสถียร’ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ได้โพสต์ถึงความกังวลปัญหา ‘หนี้เสีย’ ที่อาจจะส่งผลกระทบระดับ ‘พังเศรษฐกิจ’ บนเฟซบุ๊ก โดยมีใจความว่า หลายปีที่ผ่านมา ผู้คนให้ความสนใจกับ ‘หนี้ชาวบ้าน’ มากขึ้น แต่ผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจพัง แต่ทำให้เศรษฐกิจหงอยและซึม ยกเว้นว่าหนี้เหล่านี้ไปทำให้ระบบสถาบันการเงินเสียหาย จึงจะเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจจะพัง โดยมี ‘ข้อมูลสถิติ’ ที่เป็นสัญญาณเตือนภัย คือ ‘หนี้รถยนต์’
ในระบบเครดิตบูโรมี ‘หนี้รถยนต์’ รวม 2.6 ล้านล้านบาทไตรมาสที่ 1/2566 มีสัญญากู้รถยนต์เพิ่มขึ้น 3.5 แสนบัญชี กว่า 53% ของสัญญากู้รถยนต์เป็น ‘คนเจนวาย’ กว่า 67% ของสัญญากู้รถยนต์ของคนเจนวายกู้ใน "ช่วง 500,000-2,000,000 บาท"
หนี้เสียค้างเกิน 90 วัน เท่ากับ 6.9% ของยอดหนี้ของทั้งหมด ปัญหา คือ หนี้ค้าง 1-3 งวด แต่ยังไม่เป็นหนี้เสีย “เติบโตพุ่ง” มาตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 (1 ปีครึ่ง)
ตอนนี้เท่ากับ 1.9 แสนล้าน คิดเป็น 7.3% ของยอดหนี้ทั้งหมด ลักษณะ ‘หนี้ค้าง 1-3 งวด แต่ยังไม่เป็นหนี้เสีย’ เรียกกันในภาษาสินเชื่อว่า ‘เลี้ยงงวด’ ความกังวล คือ ส่วนที่ ‘เลี้ยงงวด’ กันอยู่จะกลายไปเป็น ‘หนี้เสีย’ มากน้อยแค่ไหน เจ้าของหนี้จะยังมีความสามารถในการผ่อนชำระค่างวดหรือไม่ แล้วเกี่ยวอะไรกับ ‘คนเจนวาย’ ? นายสุรพลอธิบายว่า กลุ่มคนที่อยู่ในสถานะ ‘เลี้ยงงวด’ มากที่สุด คือ ‘คนเจนวาย’ หากดูจากกราฟประกอบจะเห็นว่า ‘คนเจนวาย’ มีจำนวนบัญชีหนี้ที่ค้างชำระมากกว่า 30 วันมากที่สุด หรือมีจำนวนบัญชีมากกว่า 6 แสนบัญชี ขณะที่ ‘คนเจนเอ็กซ์’ มีจำนวนบัญชีหนี้ที่ค้างชำระมากกว่า 30 วันเกือบ 4 แสนบัญชี และ ‘คนเจนเบบี้บูม’ มีไม่ถึง 1 แสนบัญชี
โดยหนี้รถยนต์ของ ‘คนเจนวาย’ มีการเติบโตของ ‘หนี้ค้างชำระ 31-60 วัน’ เติบโตจนกราฟชันขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“มันจึงไม่แปลกที่จะมีข่าวออกมาว่า สินเชื่อรถยนต์ปล่อยกู้ยาก คนได้รับสินเชื่อยาก ปฎิเสธสินเชื่อเยอะ จนกระทบกับคนที่ขายรถยนต์ เพราะบ้านเรามันกู้เงินมาซื้อกันมากกว่าซื้อสด ในอนาคตเราคงจะได้เห็น หนี้เสียจากรถยนต์ที่รักโลก รักสิ่งแวดล้อมมากขึ้นแน่ๆ จองๆกันเยอะ ยังไงก็ช่วยวางแผนผ่อนจ่ายให้ดีด้วยนะครับ อย่าคิดแค่เอาส่วนที่ประหยัดค่าน้ำมันมาจ่ายค่างวดนะครับ คิดเยอะๆนะครับ” สุรพลกล่าวในโพสต์