ธอส. พัฒนา Digital Services ตามแผนยุทธศาสตร์ Digital Bank เต็มรูปแบบภายในปี 2565
ยกระดับจาก Mobile Application : GHB ALL พัฒนาเป็น GHB ALL GEN
ธอส. จัดทำโครงการ “G H Bank New Normal Services” พัฒนาฟังก์ชั่นบริการเพิ่มเติมทั้งทางด้านการเงินและสินเชื่อ เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลด้วย Mobile Application : GHB ALL สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย โดยได้พัฒนาพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีที่่ผ่านมา จนลูกค้าสามารถฝาก ถอน โอน จ่าย ง่ายเพียงปลายนิ้ว ที่สำคัญเป็นการขยายบริการดิจิทัลให้สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด - 19 ที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
โดยในปี 2562 ธอส. มีลูกค้าใช้งาน Application : GHB ALL จำนวนราว 2.42 แสน บัญชี ในปี 2563 มีลูกค้าใช้งานราว 7 แสนบัญชี และเพิ่มเป็นกว่า 1 ล้านบัญชีในปี 2565 ซึ่ง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 ธอส. มีลูกค้าที่ใช้บริการ GHB ALL ที่สูงกว่า 1.13 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วน Digital Transaction อยู่ที่ 76.06% ของจำนวน Transaction ทั้งหมด และตั้งเป้าหมายให้ได้ 80 % ของจำนวน Transaction ทั้งหมดภายในปีนี้
Application : GHB ALL
มีบริการที่น่าสนใจ ได้แก่ การซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. , ขอ Statement บัญชีเงินฝาก เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการอนุมัติธุรกรรมต่าง ๆ ระบบจะส่ง Statement บัญชีเงินฝากตามที่ระบุไปที่ E-mail ของลูกค้า , การจองคิวใช้บริการล่วงหน้า เพื่อเลือกสาขาที่ใกล้ที่สุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ต้องการใช้บริการ , การชำระเงินกู้พร้อมกันได้หลายบัญชี ในขั้นตอนเดียว และรับใบเสร็จชำระเงินกู้รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนรูปแบบเดิมที่เป็นกระดาษ , การตรวจสอบ Slip และรับใบเสร็จเงินกู้ electronics ย้อนหลังได้สูงสุด 3 เดือน , การชำระเงินดาวน์ทรัพย์ NPA , การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเปลี่ยนแปลงที่อยู่จัดส่งเอกสาร การติดต่อกับธนาคารโดยไม่ต้องเดินทางไปแจ้งที่สาขา , การสร้าง QR Code สำหรับชำระเงินกู้ผ่านช่องทางอื่น , การดาวน์โหลดหนังสือรับรองดอกเบี้ยเงินกู้ยืมกับ ธอส.
ก้าวต่อไปของ ธอส. คือ การยกระดับกระบวนการให้บริการลูกค้าด้วย Digital Services ตามแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารในปี 2565 สู่เป้าหมาย Digital Bank เต็มรูปแบบภายในปี 2565 ยกระดับจาก Mobile Application : GHB ALL พัฒนาเป็น Mobile Application : GHB ALL GEN
โดยพัฒนาการให้บริการในด้านต่างๆ เช่น การเปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์ขอยื่นกู้จากที่ไหนก็ได้ผ่านด้วยเมนู “สินเชื่อ Express Loan” เพียงกรอกข้อมูลที่ธนาคารใช้ประกอบการพิจารณาวงเงินสินเชื่อไม่กี่ขั้นตอน และเดินทางมาที่ธนาคารเพื่อลงนามสัญญาเงินกู้เพียงครั้งเดียว
ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า สิ่งที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะต้องทำในอนาคตคือ ปรับตัวเพื่อให้ยังคงเติบโตได้ต่อไป ได้แก่ การบริหารสินทรัพย์ เพื่อลดการตั้งสำรอง การบริการเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่บางลง เพราะถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ที่อัตราดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น ซึ่งธนาคารเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก และจะตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุดเพื่อช่วยลูกค้าอย่างน้อยก็ให้ถึงสิ้นปีนี้ แม้จะต้องกระทบกับรายได้ที่หายไปไม่น้อยกว่า 1,900 ล้านบาท โดยจะทยอยขึ้นดอกเบี้ยให้เท่ากับธนาคารอื่นในช่วงเดือนมกราคาถึงมิถุนายนปี 2566
ขณะเดียวกัน ธนาคารยังต้องดูแลกลุ่มฐานรากและระดับกลาง ทำให้ธนาคารมีความเสี่ยง เพราะเป็นธนาคารของรัฐ จึงไม่สามารถใช้นโยบาย High risk High return ได้ แต่กลับต้องใช้นโบาย Low Price ดังนั้นเพื่อให้ธนาคารสามารถขยายฐานลูกค้าเพื่อเพิ่มปริมาณการทำธุรกรรมได้มากๆ จึงต้องเร่งทำเร่งเรื่อง Digital Bank
“ สิ่งที่ธนาคารจะทำในอนาคตคือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มปริมาณลูกค้า ขณะนี้การให้บริการด้านดิจิตอลหลายตัวกำลังออกมา จึงได้เสนอคณะกรรมการธนาคารพิจารณาแล้วเรียกว่า N 2 N Process มีสามโมเดลใหญ่ประกอบด้วย เม็ดเงินลงทุน ด้านการปล่อยสินเชื่อ ด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ทางเอ็นพีเอ และ เอ็นพีแอล ซึ่งทั้งสามตัวนี้จะวิ่งด้วยดิจิตอลทั้งหมด ในแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารใหม่เรียกว่า Finger Strategy คือประชาชนจะรู้จักธนาคารอย่างไร กับประชาชนจะเข้าถึงธนาคารอย่างไร จะประชาชนจะใช้งานกับธุรกิจของเราอย่างไร และประชาชนจะบอกกับเรายังไง และประชาชนจะรอยัลตี้กับเรายังไง “
N 2 N Process เริ่มจากทางด้านสินเชื่อที่ลูกค้าจะเข้าถึงธนาคารผ่านแอพตัวใหม่ คือ GHB ALL GEN ที่เตรียมเปิดให้ประชาชนใช้บริการในเดือนถัดไปสามารถเข้าถึงธนาคารผ่านโมบายแอพและโหลดแอพ สมัครเข้ามา สอบถามข้อมูลเหมือนคุยกับเจ้าหน้าที่ โดยที่ไม่ต้องเดินทางมาที่สาขาในการขอสินเชื่อ เมื่อยื่นเอกสารผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แล้วอาจจะมาธนาคารเพียงหนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้นคือวันที่มายื่นเอกสารและวันที่ทำสัญญา โดยธนาคารจะมีระบบการประเมินที่อยู่อาศัยได้ทันที ณ วันมายื่นขอสินเชื่อโดยไม่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ออกไปประเมินเหมือนที่ผ่านมา เมื่อระบบได้ทำการประเมินแล้วจะทราบได้ทันทีว่าบ้านที่จะซื้อนั้นมีราคาเท่าไหร่ ซึ่งจะทำให้การประเมินการขอสินเชื่อ รวดเร็วมากขึ้น การยื่นเอกสารผ่านแอพ แจ้งผลสินเชื่อ ผ่านบัดดี้ และมาเซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ ( e- Contract ) สัญญากจะเก็บในรูปของ PDF และนัดจำนองที่กรมที่ดินหรือจะมอบอำนาจก็ได้ จากนั้นธนาคารจะทำการโอนเงินให้กับผู้ซื้อหรือผู้ขายโดยตรงโดยที่ไม่ต้องใช้เช็คอีกต่อไป แต่ลูกค้าจะเก็บโฉนดของตัวเองไปเลย หลังจากนั้นธนาคารจะใช้แอพพลิเคชั่นในการติดต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะมี package ตัวใหม่หรือ มีดอกเบี้ยหรือมีมาตรการต่างๆ ลูกค้าก็จะรับรู้และสามารถติดต่อธนาคารได้ตลอดเวลา ซึ่งต่อไปทุกอย่างจะวิ่งอยู่บนดิจิตอล
Application : GHB ALL GEN
คือ Generation ไหนก็ใช้ได้ แอปเดียวครบ จบทุกเรื่อง ต่อยอดจาก Application : GHB ALL ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ Lifestyle แบบ New Normal รวบรวมบริการสำคัญสำหรับลูกค้า ธอส. อาทิ การยื่นขอสินเชื่อ ชำระหนี้เงินกู้ ดูใบเสร็จ โอนเงิน เปิดบัญชี และซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. เป็นต้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบใช้งานจริงภายในเฟสที่ 1 กับพนักงานของธนาคารทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มเปิดให้ลูกค้าประชาชนสามารถดาวน์โหลดใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
โครงการจัดเก็บ Electronic File แทนเอกสารสิทธิ์ต้นฉบับ (ธนาคารไม่เก็บโฉนด) : โดยลูกค้าสามารถรับโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดฉบับจริงกลับบ้านได้ทันทีในวันที่ทำนิติกรรมการโอนและจดจำนองที่สำนักงานที่ดิน โดย ธอส. ถือเป็นธนาคารแห่งแรกที่จัดเก็บโฉนดที่ดินหรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์แทนเอกสารสิทธิ์ต้นฉบับ ปัจจุบันมีลูกค้ากลุ่มสวัสดิการที่ทำนิติกรรมหลังวันที่ 24 มิถุนายน 2565 ได้รับโฉนดตัวจริงกลับบ้านแล้วจำนวน 26,766 ราย และจะขยายสู่กลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วไปที่ทำนิติกรรมกับธนาคารตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2565 เป็นต้นไป
บริการโอนเงินกู้เข้าบัญชีเงินฝากผู้ประกอบการแทนการจัดทำแคชเชียร์เช็ค บริการที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ไม่ต้องเดินทางไปสาขาของธนาคารเพื่อนำแคชเชียร์เช็คที่ได้รับจากธนาคารไปขึ้นเงินเหมือนที่ผ่านมา โดยเริ่มดำเนินการเฟสแรกแล้วตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2565 โดยมีผู้กระกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้าร่วมเพื่อรับเงินด้วยการโอนเงินแล้วจำนวน 22 บริษัท 76 โครงการทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การพัฒนา Digital Services จะทำให้ ธอส. สามารถลงทุนและดึงลูกค้าเข้ามาได้มากขึ้น และมีช่องทางในการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น หลากหลายช่องมากขึ้น ขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น มีธุรกรรมมากขึ้น ทำให้ธนาคารไม่ต้องลดคน ไม่ต้องลดสาขา และยังสามารถขยายสินเชื่อได้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายงานพิเศษ โดย กนกวรรณ บุญประเสริฐ