กบข.บริหารเงินให้ ข้าราชการที่เป็น สมาชิกกว่า 1.2ล้านราย

Categories :

Public : 06/26/2023
หากจะพูดถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)ถึงทุกวันนี้อยู่คู่กับระบบราชการไทยมา กว่า 32 ปีแล้ว โดย กบข.ถูกจัดขึ้น  ในปี พ.ศ. 2534 คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังพิจารณาปรับปรุงระบบบำเหน็จบำนาญข้าราชการเป็นระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกลาง (Central Provident Fund)  โดยกำหนดให้ข้าราชการที่รับราชการก่อนวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ คือวันที่ 27 มีนาคม 2540 สามารถเลือกได้ว่าจะสมัครเป็นสมาชิก กบข. หรือไม่ สำหรับข้าราชการที่เข้ารับราชการหลังวันดังกล่าว ต้องเข้าเป็นสมาชิก กบข. ทุกคนตามที่กฎหมายกำหนด ข้าราชการที่เป็นสมาชิก กบข. เมื่อออกจากราชการ หรือ เกษียณอายุราชการ จะได้รับเงินก้อน กบข. และบำเหน็จหรือบำนาญจากส่วนราชการเจ้าสังกัด ซึ่งเงินก้อน กบข. เป็นส่วนผสมระหว่างเงินออมของสมาชิกกับ เงินสมทบและเงินชดเชยจากบำนาญจากรัฐ และผลประโยชน์จากการลงทุนที่ กบข. บริหารจัดการให้
  1. เป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ
  2. ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก
  3. จัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก
กบข. เป็นองค์กรที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติ กบข. ไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมาย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และรายได้ของกองทุนไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติ กบข. เป็นผู้กำกับและดูแลโดยทั่วไปซึ่งการจัดการกองทุน โดยมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นผู้สอบบัญชี
  1.  ด้านลงทุน : นำเงินที่รับจากสมาชิกและส่วนราชการไปลงทุนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายและนโยบายที่คณะกรรมการกำหนด
  2.  ด้านสมาชิก : ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารฐานข้อมูลสมาชิก การจัดสรรผลประโยชน์จากการลงทุน การประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง การจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้แก่สมาชิก รวมถึงการจ่ายเงินและผลประโยชน์คืนให้แก่สมาชิกเมื่อพ้นสมาชิกภาพ
  วันนี้  Wealthplustoday.com   พาไปดูว่า ปัจจุบันนั้น กบข.มีจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าไร และประกอบด้วยข้าราชการจากส่วนงานไหนบ้าง??? ทั้งนี้จากตัวเลข ณ สิ้นเดือน พ.ค2566 นั้น พบว่า กบข.มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด  รวม 1,200,892  ราย  แบ่งเป็นเพศ ชาย581,016ราย และ หญิง619,876ราย ประกอบด้วย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา384,956ราย ข้าราชการพลเรือน382,549ราย ข้าราชการทหาร196,342ราย ข้าราชการตำรวจ166,582ราย ข้าราชการฝ่ายตุลาการ14,051ราย ข้าราชการในพระองค์13,878ราย ข้าราชการซึ่งโอนไปเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่น12,409ราย ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา และ พนักงานในสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ9,850ราย ข้าราชการฝ่ายอัยการ9,039ราย ข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน3,015ราย ข้าราชการรัฐสภาสามัญ2,981ราย ข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต2,559ราย ข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง2,526ราย ข้าราชการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ 155 ราย   โดย ณ สิ้นไตรมาสแรก ปี2566 กบข.มีสินทรัพย์สุทธิ ภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 1.23 ล้านล้านบาท และ มีผลประโยชน์รอการจัดสรร 967.72 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในการบริหารเงินกองทุน กบข.ก็มีนโยบายชัดเจน และแบ่งสัดส่วนการลงทุน (ตามกราฟ)