“พิทยา วรปัญญาสกุล”ซีอีโอหญิงคนแรก KTCสานต่อเป้าหมาย”กำไรนิวไฮ”ทุกปี

Categories :

Public : 10/18/2023
 

ปี 2567 จะเป็นปีที่ บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC) มีการผลัดทีมผู้บริหาร จาก คุณระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC)คนปัจจุบันที่จะครบวาระ และ "พิทยา วรปัญญาสกุล " ซึ่งถือว่าเป็นลูกหม้อของ KTC ก้าวขึ้นมา ดำรงตำแหน่ง "ซีอีโอ " แทนในวันที่ 1มค 2567

พร้อมกับทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจที่เป็นแกนหลักสำคัญและล้วนเป็นผู้บริหารหญิงทั้งหมด!!!

คุณรจนา อุษยาพร ผู้บริหารสูงสุด รักษาการผู้บริหารสูงสุดสายงานการเงิน คุณประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต คุณพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้บริหารสูงสุดสายงานสินเชื่อบุคคล คุณเรือนแก้ว เกษมสวัสดิ์ศรี ผู้บริหารสูงสุดสายงานสินเชื่อรถยนต์ คุณอุษณีย์ เลาหะวรนันท์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานสื่อสารการตลาดและ ธุรกิจMAAI

ท่ามการเปลี่ยนทางด้านกฎระเเบียบและนโยบายจากทางการโดยเฉพาะจากธนาคารแห่งประเทศไทย ท่ามกลางภาวะดอกเบี้ยและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้น

โดย KTC ประเมินว่า ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 3.1%ในปีหน้าจากปีนี้ที่คาดว่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.8% จากปีก่อน 2.4% หรือรวมๆต้นทุนการเงินสูงขึ้น 0.7% ประเด็นเหล่านี้จะกดดัน การก้าวขึ้นมานำพาองค์มากน้อยแค่ไหน

อีกทั้ง KTC   จัดว่าเป็น "หุ้น"ที่อยู่ใน เรด้า ของนักลงทุน เป็นหุ้นที่พลิกชีวิตและสร้างให้เป็นเซียนหุ้นมาแล้วจะยังเป็นที่เชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหน !!อีกทั้งหากย้อนกลับไปดูผลงานข " คุณระเฑียร " ที่เข้ามาบริหารและพลิก KTC ให้เป็นองค์กรที่มีกำไรและสร้างกำไรนิวไฮ ทุกๆปี ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง !!!

Wealplustoday.com มีโอกาสเดินทางไปกับ KTC เพื่อแถลงแผนงานและ ส่งไม้ต่อกลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ดีเอ็นเอเดิม “The story continues…the next journey begins”

ซึ่งคำตอบจากถ้อยแถลงทั้งหมดของงาน แม้องค์กรแห่งนี้จะมีการผลัดรุ่นการบริหาร " แต่เมื่อได้ยินคำมั่นที่ชัดเจน ชัดถ้อยชัดคำ ว่า " KTC จะยืนเป้าหมายที่จะทำกำไรนิวไฮทุกๆปี ปักธงไว้ชัดเจน  KTC จะมีกำไร 10,000 ล้านบาท ในอนาคตข้างหน้า

"  พี่ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ต่อยอดฐานที่แข็งแกร่งที่ คุณระเฑียร ได้วางรากฐานให้กับองค์กรนี้มาอย่างต่อเนื่องที่ดำรงตำแหน่งและวางฐานให้มั่นในทุกๆด้าน ดังนั้นเมื่อพี่เข้ามานั่งในตำแหน่งนี้พี่ก็พร้อมที่จะสานต่อและต่อยอดให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนและกำไรนิวไฮ !! ต่อไป "  พี่ฮั้ว "พิทยา วรปัญญาสกุล " กล่าว

พร้อมทั้งกล่าวว่า ในส่วนของทิศทางและเป้าหมายการทำธุรกิจในปี 2567  และก้าวต่อไปของเคทีซีว่า  “เราพร้อมจะสานต่อวิสัยทัศน์และความสำเร็จที่ผ่านมา เพื่อส่งต่อเรื่องราวดีๆ ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยจะทำธุรกิจให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสานต่อวัฒนธรรมองค์กรที่ดีของเคทีซี ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่านิยมองค์กร (Core Value) ที่คนเคทีซียึดถือเป็นแนวทางในการทำงาน ได้แก่ 1. กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง 2. ทำให้ง่าย ไม่ซับซ้อน และ 3. ทำสิ่งที่มีความหมายและเป็นประโยชน์ รวมทั้งปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรแห่งความไว้วางใจ (Trusted Organization) เพื่อส่งต่อความเชื่อมั่นจากภายในเคทีซีไปสู่สมาชิก องค์กร ผู้ถือหุ้นและสังคม

“เคทีซียังมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อทั้ง 3  ธุรกิจที่เป็นแกนหลัก คือ ธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” เพราะเชื่อว่ายังมีผู้บริโภคที่ต้องการสินเชื่ออยู่อีกมาก โดยเคทีซีจะเน้นขยายฐานสมาชิกไปยังผู้ที่มีความต้องการสินเชื่อเป็นหลัก และไม่ชักจูงให้สมาชิกมีภาระหนี้ที่เกินความจำเป็น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) ของธนาคารแห่งประเทศไทย ในส่วนของธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซีซึ่งมีการเติบโตที่ดีมาตลอดปี 2566 เชื่อมั่นว่ายังสามารถที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ต่อไป

ธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี ตั้งเป้ามีสมาชิกบัตรใหม่เพิ่มขึ้น 230,000 ใบ และมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ เติบโต 15%

สินเชื่อส่วนบุคคลยังเป็นธุรกิจที่เราเน้นการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินเชื่อคุณภาพ โดยในปี 2567 ตั้งเป้าเติบโต 5% จำนวนสมาชิกบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” เพิ่มขึ้น 100,000 ราย

เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ยังคงเน้นการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ปี 2567 ที่ 6,000 ล้านบาท

MAAI by KTC ในปี 2567 มีแผนจะขยายจำนวนพันธมิตรธุรกิจขนาดกลางและใหญ่อีกไม่ต่ำกว่า 20 รายซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนสมาชิก MAAI ประมาณ 2 ล้านราย

ด้านการเงินนั้น ในปี 2567 เคทีซีจะยังคงรักษาระดับให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยมีแผนจะระดมเงินกู้ยืมระยะยาวประมาณ 13,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ รวมถึงรองรับหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดประมาณ 11,850 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นต่อเงินกู้ยืมระยะยาว (Original Term) อยู่ที่ประมาณ 20:80 และต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ประมาณ 3.1% สูงขึ้นจากสิ้นปี 2566 ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.8%แต่เรายังคงฐานการเงินที่แข็งแรง

 

ขณะที่ " คุณระเฑียร " ได้พูดถึงเหตุผลที่คณะกรรมการ KTC เลือก "คุณพิทยา" ขึ้นมาเป็น CEO คนถัดไป ได้เห็นภาพที่ชัดเจนมาก และน่าจะเป็นการส่งไม้ต่อที่ผลักให้ KTC ยังวิ่งไปข้างหน้าได้มั่นคง ชัดเจน ยั่งยืน

" คุณระเฑียร " กล่าววว่า ที่ผ่านมามีความเชื่อมาตลอดว่า เมื่อเราสร้างพื้นฐานที่ดีเอาไว้ ไม่ว่าใครจะมาเป็น CEO ก็จะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมาย คือกำไรโตทุกปี และแตะ 1 หมื่นล้านบาทใน 4-5 ปีข้างหน้า

แต่เมื่อ มีความท้าทายทั้งจากภายนอกและภายใน จึงเปลี่ยนความคิด ว่าการเลือกคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญ และเชื่อว่า คนของ KTC ไม่ว่าจะทำอะไรก็สามารถพัฒนาตัวเองได้อยู่แล้ว ดังนั้น hard skill จึงไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด หากเป็นคนเก่งแต่นำทีมไม่ได้ เป้าหมายคงไปไม่ถึง

ดังนั้นการเลือก CEO คนใหม่จึงให้ความสำคัญกับ leadership และ leadership os คือการสามารถสร้างระบบเพื่อส่งต่อความเป็น leader ให้กับทีมได้

leadership ในความหมายของ KTC ประกอบด้วย 3 ข้อ

1.สามารถสร้าง Trust ให้เกิดกับคนในองค์กรและ stakeholder ซึ่งเป็นวัฒนธรรมองค์กรของ KTC

มีความห่วงใย สร้างความอุ่นใจ ลูกน้องสามารถแสดงความเห็นที่แตกต่างได้ พูดชัดเจน คำไหนคำนั้น และมีความแฟร์ ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย

2.Clarity มีความชัดเจน บอกได้ว่า Purpouse ขององค์กร คืออะไร ทำไมต้องมี KTC อยูในโลกนี้

ซึ่ง Purpouse ซึ่งเป็น Core Value ของ KTC คือ ทำสิ่งที่ถูกต้อง มีความรับผิดชอบกับสิ่งที่คิด พูด ทำ และสร้าง Value ที่ดีให้สังคมและองค์กร

3.มี Momentum ให้ทำต่อเนื่องได้ ข้อนี้ยากที่สุด

ซึ่งหมายถึงความสามารถในการกระตุ้น ทีมงาน , มีความมั่นใจในการทำ , empower ให้อำนาจการตัดสินใจแก่ลูกทีม และมี connection ที่ดีกับทุก stakeholder หน้าที่ของ CEO นอกจาก leadership แล้ว ต้องวางกลยุทธ์ขององค์กรได้ด้วย ซึ่งคุณพิทยามีคุณสมบัติครบถ้วน โดยเฉพาะ DNA ของ KTC ที่มีอย่างเต็มเปี่ยมจากการเป็นลูกหม้อมา 26 ปี

KTC ภายใต้แม่ทัพหญิงและทีมผู้บริหารหญิงจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม !!!